ข้อความต้นฉบับในหน้า
โครงการบวชขอรับสักกาแก้วหน่ออ่อน ๑ ล้านคน
๒๖ เรื่องพระนางมาหาปาชามดีโศกมี (๒๑)
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภพระนางมาหาปาชามดีโศกมี ตัสสะพระธรรมเทศนานี้ว่า “ยสู ส กาเยน” เป็นต้น
พระศาสดาตรางบัญญัติธรรม ๘
ความผิดฐานว่า พระนางมาหาปาชามดีโศกมีพร้อมกับบริวารรับธรรม ๘ ประการ ๑- อันดับ ๑.
พระผู้พระภาคเจ้าตรัสบัดแล้ว ในเมื่อเรื่องยังไม่เคยดำเนิน เหมือนบูรพามนิมมิติกาประดับพร ดอกไม้หอมด้วยเศียรเถ้าได้อุปสมบทแล้ว อุปาชฺยะหรืออาจารย์อื่นของพระนางไม่มี.
ภิญญาทั้งหลาย ปราศรพระเณรีมีอุปสมบทอันได้แล้วอย่างนั้น โดยสมบูรณ์นสนานกว่า“ อาจารย์และอุปาชฺยะของพระนางมาหาปาชามดีโศกมี ย่อมไม่ปรากฏ”, พระนางคือผ้ากาสะของทั้งหลายด้วยมือของตนเอง .”
ก็แล้ว ครั้งนั้นกล่าวอย่างนั้นแล้ว ภูกษ์ทั้งหลายประพฤติบริจาคอย่างอยู่ยอดไม่ทำอุบายด้วย ไม่ทําปรานีร่วมกับพระนางเลย. ภิกฺขูนี้ทั้งหลายั้นไปปราบมูลเนื้อความนั้นแหม่แต่พระตาคตแล้ว.
คนที่ควรเรียกว่าพราหมณ์
พระศาสดา ตรัสคำของภิญญาเหล่านั้นแล้ว จึงตรัสว่า “ครุธรรมะส ประการ เราให้แล้วแก่พระนางมาหาปาชามดีโศกมี, เราเองเป็นอาจารย์เองเป็นอุปชฺยาของพระนาง, ชื่อว่าความมิคอธิษฐานแพ้งหลาย ผู้วันแล้วจากอุติ์ทั้งหลายมีฤทธิ์เป็นต้น ฉันเธอทั้งหลายไม่ควรทำดังนี้แล้วมีอารุ่งแสดงธรรม จิตรัสพระคาถานี้ว่า :-
๔. ยสู ส กาเยน วาจาย มนสา คฤดิ ทุกกฺขิต
สุตติ ดีวี ฐานิ ฏนฺมิ พูรีํ พราหมณํ.
"ความชั่วทางกายทางและใจ ของบุคคลใด
ไม่มี, เราเรียกบุคคลนั้น ผู้สารามแล้วโดยฐานะ ๓
ว่าเป็นพราหมณ์."
-----------------------------------------------------------------------------