ข้อความต้นฉบับในหน้า
โครงการบวชขอญสิกาแก้วหนอ่อน ๑ ล้านคน
๑๓) เรื่องนางสมุนาเทวี[๑๑]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเจตนา ทรงปรารภนางสมุนาเทวี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อิฐ นนทกัต เปัจจ นนทกัต" เป็นต้น.
อุปัณฐิกาและอุปัณฐิกาดี ย่อมรู้ความชอบใจและกิจสมควรของกิฐ
การสอนลูกให้ทำหน้าที่งานบุญแทนตน ให้ทุกคนทำงานแทนได้เป็นสิ่งดี
อบรมลูกหลานให้รับหน้าที่ของตน
ความสิศาสว่า ภิกษุสองพรรษา ย่อมฉันในเรือนของอนาถบิณฑิกเศรษฐีในครอบวัดดีทุกวัน, ในเรือนของนางวิสาขามหาทุติอสงส์เช่นนั้น.ก็คุณสมเด็จในในคราวสักดี เป็นผู้ประสงค์จะถวายทาน บุคคลนั้น ต้องได้โอกาสของท่านทั้งสองนั้นก่อนแล้ว จึงทำได้.
ถามว่า "เพราะเหตุไร ?"
ตอบว่า "เพราะคนอื่น ๆ ถามว่า ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีหรือรามวิสาขา มาสู่โรงทานของท่านแล้วหรือ? เมื่อเขาตอบว่า ?'ไม่ได้มา', ย่อมดีเตือน แมท่านอนบุคคลสะท่rerีพบตั้งแสนแล้วทำว่า "นี่ชื่อท่านอะไรว? เพราะท่านทั้งสองนั้น ย่อมรู้ความชอบใจของภิกษุสูงมากและกิจสมควรแก่ภิกษุสูงสุด. เมื่อท่านทั้งสองนั้นอยู่, พวกภิกษุเองฉันได้ตามใจเดียว.
เพราะฉะนั้น ทุก ๆ คนที่ประสงค์จะถวายทาน จึงชี้บอกทั้งสองนั้นไป.
ท่านทั้งสองนั้นย่อมไม่ได้เพื่อจะอาศัยฤทธิ์ทุ่งหลายในเรือนของตนด้วยเหตุนี้ เพราะเหตุนี้ นางวิสาขา เมื่อใครร่ำรวยว่า ?'ใครนอนเอ? จักำรณ์ในหน้าที่ของเราเลี้ยงฤทธิ์สูงสุด." เห็นดาคของตนแล้ว จึงตั้งเขาไว้ในหน้าที่ของตน.นางอรณาสิกษูสูงสุดในเรือนของนางวิสาขา
ถึงท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ก็ถึงอิฐดาคนใหญ่ ชื่อหาสุกัทว่าก็เท่าน่าหาสุกัทนั้น ทำการบวงบวายแก่ภิกษุทั้งหลายอยู่ (และ) ฟังธรรมอยู่ เป็นพระโลคัพนแล้ว ได้ไปสู่กุลแห่งสามี
แต่นั้น ท่านอนาถบิณฑิกะ ก็ถึงนางจุลสุกัททา (แทน). แม้นางจุลสุทัททนั้น ก็เท่าอยู่ อย่างนั้นเหมือนกัน เป็นพระโลคบัณฑิตแล้วก็ไปสู่กุลแห่งสามี. ลำดับนั้น ท่านอนาถบิณฑิกะ จึงตั้งฐิคานเล็ตนามว่าภสมุนวาติ (แทน).
อนาถบิณฑิกเศรษฐีมีลูกหลานไม่มาก และยังอายุสั้น แตกต่างจากนางวิสาขา