ข้อความต้นฉบับในหน้า
โครงการบวชขอพาสิกาแก้วหนออ่อน ๑ ล้านคน
แลเห็นอธิษฐานนี้นั้น ระลึกมองไปด้วยเหงื่อ เปรอะด้วยเหงื่อ มอมแมมด้วยถ่านและเถ้าม
เที่ยวจัดทำอยู่โดยนั้น จึงคิดว่า "ทุกโบร หญิงอันธรรม ไม่เสวยสมบัติสิริเช่นนี้ ในฐานะนึก
ปานนี้ กลับมือดินดีว่า เราจักปฏิญาณ(ภ) อธิษฐานจะสละโลภ, เที่ยวไปได้" จึงทราบแล้วพลับไป
เมื่อเศรษฐิฐูดนั้นหลบไปแล้ว นางสิริมาถึงอยู่ในที่ใกล้ของเขาคิดว่า "เศรษฐิฐูดนั้น
มองดูอะไรหนอแล้ว จึงมองลงไปทางหน้าต่างนั้นและ เห็นนางอุตตราแล้วคิดว่า " เศรษฐิฐูด นี่หัวเราะก็เพราะเห็นนางคนนี้, ความชิดชมของเศรษฐิฐูดนี้ยังมีค่อยนึงอยู่นี้เป็น
แน่."
จับเข็ดเป็น จับถูกเป็น รู้จักให้ปลอดภัย แม่ผดตาตต่อกันก็ไม่มีเรว ไม่มีภัย
นางสิริมาถึงนางอุตตราเอ็นดูไต่ล่อตร
ได้ยินว่า นางสิริมานั้นแม้อยู่เป็นพาหริกสตร์ในเรือนนี้ตลอดคึงเดือน เสวยสมบัติ ไอยู่ว่าเป็นหญิงภายนอก ได้ทำความสำคัญว่า " ตัวเป็นแม่เรือน.. นางผูกอามาตต่อ
นางอุตตรว่า "ถ้าต้องยังทุกข์ให้กิณฑ์นั้น" ถึงจากปราสาท เข้าไปสู่โรงครัวใหญ๋ เอาพิธี
ถ้าคนใส่อื่นเดือดพล่านในที่ของคนมแล้ว ก็คืนมุ่งหน้าตรงไปหานางอุตตรา นางอุตตราเห็น
นางสิริมาถึงเดินมา จึงแก้มแตะไปถึงนางว่า" หญิงสาวหยิบของเราที่อุปะเก๋เรามาก, จักรวัลนี้
แกนเกินไป,พรหมโลกก็ต่ำกว่า, ส่วนคุณของหญิงสาวหยามเราใหญ่มาก; ก็เราคิดนางนั้น จึงได้
เพื่อถวายทานและฟังธรรม, ถ้ามีความโกธรหนองนางสิริมานั้น นายใส่ฉลากราเิดลีก, ถ้าไม่
มี อย่าลาเวาเลย." นายใส่ฉลากเิดลอดผ่าน้านางสิริมานั้นลงม่งบนางอุตตรานั้น ได้เป็น
เหมือนน้ำน้ำเย็น.
ด้านนั้น พวกทาสีของนางอุตตรา เห็นนางผู้ค้ากายใสใส่ผ้าพีอิ๋กด้วยเข้าใจว่า
"นายใส่ฉลากเิด่าน" ถือเดินมาอยู่ จึงกล่าวว่า "นางหัวร้อ เจ้าของหลีกไป, เข้าไม่วะรดเยน
ใส่ที่ดำคลานาน บนเจ้แม่ของพวกเรา" แล้วดังลูกขึ้นจากที่นั่งนั้นบ้าง ที่นี่บ้าง ใช้มือบ้าง เท้าบ้าง
ทุบธูปให้สัมลงบนพื้น นางอุตตราไม่สามารถจะห้ามปรามนางทาสเหล่านี้ได้, ทีนี้นางจึงห้าม
ทาสทั้งคุณ ที่ยืนครองอยู่อย่างนางสิริมานั้นแล้วว่า "เพื่อประสงค์อะไร เธอจึงทำกรรม
หนึงถึงปานนี้?" ดังนี้แล้วโอวาทนางสิริมาน ให้บอกว่านุ่นน่านอน ท่าวัตนั่นที่หยุดตั้ง ๑๐๐ ครั้ง.
นางสิริมารู้สึกตัวขอโทษนางอุตตรา
ขณะนั้น นางสิริมานั้นรู้สึกว่าบันเทิงหญิงภายนอกแล้ว คิดว่า " เรารู้เนื้อที่เดือดพล่านลง
เมื่อบน นางอุตตรานี้ เพราะเหตุผู้เพียงความหัวร้ายของสมี ทำกรรมหนักแล้ว, นางอุตตรานี้ไม่