ข้อความต้นฉบับในหน้า
โครงการบวขุยาสีกาแก้วหนอ่่อน ๑ ล้านคน
หญิงคนนี้ขึ้นไปนำเอามาแล้ว.นางวิสาขา ไม่แต่งเครื่องประดับนั่น สั่งให้เรียกพวกช่างทอง
มาแล้วให้ตรา
เมื่อพวกช่างทองเหล่านั้นตอบว่า " มีราคีถึง โกจิ , แต่สำหรับค่านหน่อยต้องถึงเสน,"
จึงวางเครื่องประดับไว้บนยานแล้วกล่าวว่า " ถ้ากระนั้น พวกท่านจะขายเครื่องประดับนั้น."
ไม่มีใครอาถึงให้ทรัพย์จำนวนเท่านั้นรับไว้ได้, เพราะหญิงผู้สมควรประดับเครื่องประดับนั้น
หาได้ฤก. แท้จริง หญิง ๑ คนเท่านั้น ในปฐมฺทล ได้เครื่องประดับมหาถาดาประสานี คือ
นางวิสาขามหาอุบาสิกา ๑ , นางมัลลิกากรรายของพันธุสุลาเสนานี , ลูกสาวของเศรษฐีธูรณ
พาณสี ๑, เพราะฉะนั้น นางวิสาขา จึงให้ค่าเครื่องประดับนั้นเสียเองทีเดียว แล้วใหนทรัพย์
๗ โกฏิ ๑ แสน ขึ้นใส่เกวียน นำไปสู่าธราถาถบavase และกราบทูลว่า " พระเจ้าข้า
พระอานนทเณรผู้เป็นเจ้าอาวาสหนอ!’ แล้วก็ถูกต้องเครื่องประดับของหนอ่่อนนั้นแล้ว, จินตนม
แต่ถามว่า" จักจำหน่าย น้อมนำเอาสิ่งอันเป็นภัมมะ? ไม่เห็นผู้นี้จะสามารถรับไว้ได้ จึงให้
รับค่าเครื่องประดับนั้นเสียเองมาแล้ว. หญิงฉันฉะนั้นเข้าในปัจจัยไหน ในปัจจัย ๔
พระเจ้าข้า?"
พระสตา ตรสว่า" เธอจะวาทที่อยู่เพื่อส่งใกล้ประตูต้านพระจิตเทิด วิสาขา."
นางวิสาขา ทูลรับว่า" สมควรพระเจ้าข้า" มิมิอุปนาบ จึงเอาทรัพย์ ๕ โกฏิ ซื้อเฉพาะที่ดิน.
นางเริ่มสร้างวิหารด้วยทรัพย์ ๕ โกฏิอันนี้. การสร้างวิหารของนางวิสาขา เดือนแล้วเสร็จ
ต่อมาวันหนึ่ง พระสตา ทรงตรวจดูสตวโลกในเวลาใกล้รุ่ง ได้ทอดพระเนตรเห็นอุบลอัน
สมบัติของเศรษฐีอุตรนามว่าทิฆะ ผู้จุติจากเทวโลกแล้วเกิดในธรกุลเศรษฐีในทักษิณนคร
ทรงทำภัตตกิคในเรือนของอนาถบิณฑิกเศรษฐีแล้ว ก็เสด็จบ่ายพระพักตร์ไปยังประตูด้าน
ทักษิณ ประทับอยู่ในพระเทวนี้, ทรงรับภิกษาในเรือนของอนาถบิณฑิกเศรษฐีแล้ว ก็เสด็จออกทางประตูด้าน
ทักษิณ ประทับอยู่ในพระเชตวัน, ทรงรับภิกษาในเรือนของอนาถบิณฑิกเศรษฐีแล้ว ก็เสด็จออก
ทางประตูด้านปราจีนประทับอยู่ในบุพพาราม. ชนทั้งหลายเห็นพระภูมิภาคเจ้า เสด็จดำเนิน
มุ่งตรงประตูด้านทักษิณแล้ว ย่อมรู้ว่า" จักเศร้าหลักไปสู่ที่จาริก." ในวันนั้น แม่งวิสาขา พอทราบว่า” พระสตาเสด็จดำเนินน้อยพระพักตร์ไปทางประตูด้าน
ทักษิณ” จึงรีบไป ถวายบังคมแล้วกราบทูลว่า “ทรงประสงค์จะเสด็จดำเนินไปสู่จาริกหรือ
พระเจ้าข้า?" พระสตา. อย่างนั้น วิสาขา.