ข้อความต้นฉบับในหน้า
โครงการบวงสรวงเทพสักการะแก่หนอ่อน ๑ ล้านคน
มารดาบิดาของนางให้คนหามข้างนั่งนี้นี่ไม่พบ สำคัญว่า"นางจัดดายเสียนแล้ว" จึงทำภัตเพื่อผู้ตาย13แม้บรรยายว่าร่วมกับนายพรานนั้น คลองดูบุตร ๓ คนโดยลำดับ
ผูญตรสหม่านนักผูญธิษฐานเต็มโตแล้ว ด้วยเครื่องผูกคือเรือน14
ถูกกฎมิตรราถตามในพระพุทธเจ้า
ภายหลังวันที่หนึ่ง พระสวดทรงตรวจดูสัตว์โลกในเวลาใกล้รุ่งทรนเห็นนายพรานถูกกฎมิตรรกับบุตรและสะใภ้ เข้าไปในป่ายในข่ายคือพระองค์ ทรงใคร่ครวญว่า "นั่นเหตุอะไรหนอแฮะ?" ทรงเห็นอุปสรรคแห่งโสดาบันติศนักแล้ว ทรงถือมตรและจีวรได้เสด็จไปที่คั่นบ่วงของนายพรานนั้นแต่เช้าตรู่ วันนี้แม้เนื้อสัตว์ก็ได้ดิบงวด.
พระสวดทรงแสดงรอยพระบาท ที่ใกล้บ่วงของเขาแล้วประทับที่ไอ้รุ่มไม้พุ่งหนีบ้างหน้า นายพรานถูกกฎมิตรถือมาไปสู่บ่วงแต่ชำรุด ตรวจดูบ่วงจำเดิมแต่ไม่พบเนื้อมั่นตัวเดียวชึ่งติดบ่วง ได้เห็นรอยพระบาทของพระสวดแล้ว ที่นั่นเขาได้คำรณวว่า
"ใครเที่ยวปล่อยเนื้อวิตัด (บ่วง) ของเรา." เขาผูกอามาดในพระศวดา เมื่อเดินไปก็พบพระศวดาประทับนี้ที่โคนบ่วงไม้ คิดว่า" สมณะองค์นี้ปล่อยเนื้อของเรา เราจึงมาสมะเนั้น เสีย," ดั่งนี้แล้ว ได้โำรณ.
ความเข้าใจผิดเป็นอันมากเกิดจากคิดเอง สรุปเอง โดยไม่ไตร่ตรองเสียก่อน
พระศวดาให้โณงสู้ ได้(แต่) ไม่ให้ธรุน (ธุน) ไปได้. เขาไม่อาจทั้งเพื่อปล่อยลูกทรงไป ทั้งลดลง มีสังทั้ง ๒ ปาดังจะแตกนื่้สาวไหลออกจากปาก เป็นผู้อ่อนเพลีย ได้ยืนอยู่แล้ว.
ศัตรูของพ่อ คืศัตรูของลูก การล้างแค้น การจองเวรเลยเกิด
ครั้งนั้น พวกบรรพตของเขาเปลื่ยนผุดคุยว่า "บิดาของเราล่ำซ่า อถมีเหตุอะไรหนอ?" อัน มารคาส่งไปว่า "พ่อทั้งหลาย พวกเจ้าจงไปสำนักของบิดา," ต่างก็อธิษฐานไปหินคำอื่น เช่นนั้น คิดว่า" ผู้นี้เป็นปัจจิมิตรของบิดาพวกเรา," ทั้ง ๓ คนโกล่บแล้ว ได้ยืนอยู่เหมือนกับบิดาของพวกเขายืนแล้ว เพราะอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า.
13 ทําบุญเลี้ยงพระแล้วอธิษฐานผลบุญให้ผู้ตาย 14 จักแบ่งงานให้มีเสร็จเร็วนน.
๑๓๕