โครงการบวชขอบสิกาแก้วหนออ่อน ๑ ล้านคน ธรรมบทที่เกี่ยวกับอุบาสิกา หน้า 25
หน้าที่ 25 / 164

สรุปเนื้อหา

บทสนทนานี้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการสอบถามของพระศาสดาตาปทาสุกราเกี่ยวกับปัญหาแห่งการตายและการเกิดใหม่ ซึ่งชาวกูมิก็ไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจน เสมือนเป็นคนตาบอดที่ไม่สามารถมองเห็นความจริงได้ พระศาสดาจึงสอนให้ประชาชนรู้จักรับฟังและตั้งใจเรียนรู้เพื่อเข้าใจถึงสิ่งที่สำคัญในชีวิต เพื่อให้เข้าถึงความจริงในจิตใจและการกระทำ ข้อมูลนี้เป็นการสื่อสารที่สำคัญเกี่ยวกับธรรมะในชีวิตประจำวันของชาวพุทธและกระตุ้นให้เกิดการพิจารณาในความหมายของชีวิตด้วย.

หัวข้อประเด็น

-ความตาย
-การเกิดใหม่
-ธรรมะ
-พระศาสนา
-การรู้แจ้ง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

โครงการบวชขอบสิกาแก้วหนออ่อน ๑ ล้านคน ลำดับนั้นพระศาสดาตาปทาสุกราเป็นครั้งแรกแก่ชาวกูมิทานว่่า “ดีละ ดีละ กู มรากิภัญญาอันเรามีแล้วนั้นแอนเธอแก้ได้แล้ว” แล้วตรัสถามแม้ข้อความต่อไปว่า “เธออันเรา ถามแล้วว่า ‘เธอไปใน ที่ไหน? เพราะเหตุไร’ จึงกล่าวว่า ‘ไม่ทราบ?’” กูมีกิท. “พระเจ้าข้าพระองค์ทรามหม้อมฉันผู้ถืออังสร้าค้าดหลอดเดินไปยังโรงของช้างกู, พระองค์อ้อมตรัสถามว่า ‘ก็เธอไปจากโลกนี้แล้ว จักไปเกิดในที่ไหน?’ ก็หมอฉุดจากโลกนี้แล้วอุบไม่ทราบว่า ‘จะแไปเกิดในที่ไหน?’” ลำดับนั้น พระศาสดาตาปทาสุกราแก่ชาวกูมิเป็นครั้งที่ ๒ ว่า “ปัญหาอันเรามแล้วนั้นแแล้ว เธอแก้ได้แล้ว” แล้วตรัสถามแม้ข้อความต่อไปว่า “เมื่อเช่นนั้น เธออันเราถามว่า ‘ไม่ทราบ’ หรือ? เพราะเหตุไร” จึงกล่าวว่า ‘ทราบ?’” กูมีกิท. พระเจ้าข้าพระองค์ฉ่อมทราบแต่ภาวะคือความตายของหมอฉันเท่านั้น เหตุนี้ จึงทรงบูลอย่างนั้น ลำดับนั้น พระศาสดาตาปทาสุกราแก่ชาวกูมิเป็นครั้งที่ ๓ ว่า “ปัญหาอันเรามแล้วนั้นแแล้ว เธอแก้ได้แล้ว” แล้วตรัสถามแม้ข้อความต่อไปว่า “เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอ อันเราถามว่า ‘เธออ้อมทราบหรือ? เพราะเหตุไร’ จึงพูดว่า ‘ไม่ทราบ?’” กูมีกิท. หมอฉันอ้อมทราบแต่ภาวะคือความตายของหมอฉันเท่านั้น พระเจ้าข้า แต่ย่อมไม่ทราบว่า “จักตายในเวลาวานกลางคืนกลางวันหรือเวลาเช้าเป็นต้น ในกลสือในนี้ เพราะเหตุนี้ จึงพูดอย่างนั้น” ลำดับนั้นพระศาสดาตาปทาสุกราแก่ชาวกูมิเป็นครั้งที่ ๔ ว่า “ปัญหาอันเรามแล้วนั้นแแล้ว เธอแก้ได้แล้ว” แล้วตรัสเตือนบริว่าว่า “พวกน่ยอมไม่ทราบถ้อยคำข้อมีประมาณเท่านี้นางกู มาริกานี้กล่าวแล้ว ย่อมโพลนทะนอสันเดียวเท่านั้น เพราะจักขุคือปัญญาของชนเหล่าได้ไม่มี ชนเหล่านี้เป็น (คู) คนบอดก็เดียว อัญญูคือปัญญาของชนเหล่าใดมีอยู่ ชนเหล่านี้นั้นแเลเป็นผู้มุรนุ” ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถาว่า :- ๓. อนุญฺโโต อย่า โลโก สกฺจโน โสตฺถาสุกฺยโตว สกฺจโน โสตฺถาสุกฺยโต อุปโน สกฺจาย คุตฺติโ สัตวโลกนี้เป็นเหมือนคนตาบอด ในโลกนี้ น้อยคนนักจะเห็นแจ้ง, น้อยคนก็จะไปวรรค์ เหมือนนกสุดแล้วจากข่าย (มีน้อย) ฉะนั้น.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More