ข้อความต้นฉบับในหน้า
มีส่วนในบุญนั้น ชายตัดฟืนก็บดีแบ่งส่วนบุญให้ พระราชาจำพระราชทานรางวัลอีกเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งพระราชทานตำแหน่งเศรษฐีให้ด้วย เขาได้ชื่อว่า "กัตตกิตเศรษฐี" ซึ่งแปลว่า เศรษฐีผู้รับจ้างเพื่ออาหาร
กัตตกิตเศรษฐีได้ทำบุญเป็นอันมากตลอดชีวิต เมื่อจะโลกแล้วก็ไปสู่เทวโลก ครั้งถึงเวลาครองจิตในตำลุปุปุตรของพระสัมพุทธในเมืองสาวัตถี ได้ชื่อว่า สุขมาร เพราะในขณะที่เขาเกิดนั้น ทำให้ทุกคนในบ้านมีความสุขกันไปหมด
ต่อมาเมื่ออายุได้ 7 ขวบ เกิดความศรัทธาที่จะบวช จึงขออนุญาตพ่อแม่ชะเป็นสามเณร ไม่บ่นนักก็ได้บรรจุธรรมเป็นพระอรหันต์ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง
จะเห็นได้ว่า ชายตัดฟืนได้พัฒนาชีวิตของตนเอง จากคนยากจนธรรมดา คนหนึ่ง ขึ้นมาเป็นผู้ที่จิตใจงใหญ่ สามารถจัดความตระหน่ออจากใจได้ ด้วยการเสียสละอาหารอันพิเศษ ประดิษฐ์เหนื่อกว่าที่ตนเคยบริโภคหลายเท่า ซึ่งได้มาโดยยากนั่น ถวายเป็นทานแต่พระปัจเจกพุทธเจ้า เขาจึงได้รับอานิสงส์อย่างไพศาล ทั้งโภคทรัพย์สมบัติ มนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติ และนิพพาน-สมบัติในที่สุด นี้เป็นผลจากการทำ "สามีทาน" ครั้งยิ่งใหญ่นั้น จึงได้ผลบุญมาถึงเพียงนี้
อามิสฐาน แบ่งตามเจตนาของผู้ให้ มี 2 ประเภท คือ ปฏิบุคคลิกทาน และสังฆทาน