ข้อความต้นฉบับในหน้า
คำชำรชวนก็ตว่า "เจ้าคนนี้เมื่อไม่สามารถถวายภัตตาหารแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหมดได้ ก็เนาจะถวายตามกำลังของตัวเอง ไม่น่าที่จะมาเทียบชักชวนคนอื่นทั่วไปอย่างนี้"
เพราะคิดดังนี้ เวลาให้ดูให้แบบขัดไม่ได้ คือใช้นิ้ว 3 นิ้วหยิบของให้อย่างละนิดอย่างละหน่อย ข้าวสารนิด ถั่วเขียวหน่อย น้ำผึ้ง น้ำอ้อยก็เอี้ยงขวดให้ติดปากหม้อ ให้หยดลงเพียง 2-3 หยดเท่านั้น เพราะเหตุที่เวลาให้มือเขาบลั่ยเท้าแมวอย่างนี้ ชาวบ้านจึงตั้งฉายาให้ว่า "เศรษฐีตีนแมว"
ชายผู้นี้เป็นบัณฑิต เมื่อได้รับของจากเศรษฐี ก็แยกของไว้อย่างหาก ไม่ได้ร่วมกับของที่รับมาจากคนอื่น เศรษฐีเห็นดังนั้นจึงคิดว่า "ทำไมหนอ เจ้าคนนี้จึงแยกของของเราไว้ คงเอาเราไปเทียบประจานเป็นแน่" จึงให้คนไปดูว่าเขาเอาของนั้นไปทำอะไร บัณฑิตนั้นเอาของเศรษฐีผสมลงในภาชนะทุกๆ ภาชนะที่ของเหมือนกัน พร้อมกับกล่าวว่า "ขอผลบุญอันยิ่งใหญ่จงมีแก่เศรษฐีเกิด" คนรับใช้จงนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปบอกนาย ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น เศรษฐีก็ได้นำบารมีบริจาคตัวไป ตั้งใจว่า ถ้าชายคนนี้กล่าวโทษมาถึงตน ก็จะมั่งทิ้งเสีย เศรษฐีได้ไปมอบยืนอยู่ในที่แห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลาถวายอาหารพระสงฆ์ ชายผู้เป็นบัณฑิตได้กราบคุณพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
"ขอแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้เที่ยวชักชวนมหาชน ถวายทานในคราวนี้ ขอให้