ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเรll
อานิสงส์ถวายสังฆาราม
๒๕
ครั้งนี้ มิได้กระทำบุญเพราะหวังสมบัติคือความเป็นท้าวสักก
เทวราช ทั้งมิได้กระทำเพราะหวังพรหมโลกเลย แต่ทำเพราะ
ปรารถนาความเป็นพุทธอุปัฏฐาก อยากเป็นที่โปรดปรานเหมือน
พระสุมนอุปัฏฐากของพระองค์ในอนาคตกาลด้วยเถิด”
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูว่า “ความคิดอันยิ่งใหญ่
ของพระกุมารนี้ จักสำเร็จหรือเปล่าหนอ” ทรงทราบว่า ในกัป
ที่หนึ่งแสนนับแต่ภัทรกัปนี้ไป พระโคดมพุทธเจ้าจักอุบัติขึ้น
และพระกุมารนี้จักได้เป็นอุปัฏฐากของพระพุทธองค์นั้น จึงตรัส
ให้พรว่า “ขอให้สิ่งที่ทรงประสงค์ ทรงปรารถนาแล้วทั้งหมด จง
เป็นผลสัมฤทธิ์ ขอให้พระดำริทั้งปวงจงเต็มรอบ เหมือน
พระจันทร์ในวันเพ็ญฉะนั้น
พระกุมารได้ทรงสดับแล้ว ทรงพระดำริว่า “ขึ้นชื่อว่า
พระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมไม่มีพระวาจาเป็นสอง” ตั้งแต่นั้นมา
จึงตั้งใจทําความดีตลอดแสนปี เมื่อละจากอัตภาพนั้นแล้ว ท่าน
เวียนวนอยู่ในสุคติภูมิอย่างเดียว ภพชาติสุดท้ายทรงถือกำเนิด
เป็นพระโอรสของพระเจ้าอมิโตทนะ และได้เป็นสหชาติ คือ
ประสูติในเวลาเดียวกันกับพระผู้มีพระภาคเจ้าของเรา เมื่อท่าน
เสด็จออกผนวช ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นยอดเอตทัคคะในด้านพหูสูต
รวมไปถึงเป็นยอดพุทธอุปัฏฐาก ผู้เป็นที่โปรดปรานของพระบรม
ศาสดา นอกจากนี้ท่านยังได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า