ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชll
อานิสงส์ สมาทานศีล ๕
៤៧៩
พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้อ้อนวอน แต่สอนให้ฟัง
ตนเอง โดยนึกถึงคุณความดีที่ตนทำไว้ดีแล้วและตั้งจิตอธิษฐาน
ประพฤติมั่นในทางแห่งความดีนั้น ทั้งนี้ต้องประกอบเหตุ คือ
มีบุญกุศลเป็นต้นทุนก่อน พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้พุทธบริษัท
ระลึกว่า ผู้มีศรัทธา จึงอ้อนวอนโดยชอบอย่างนี้ว่า ขอเราจง
เป็นเช่นพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเถิด เพราะท่านเสมือน
เป็นตราชู เป็นมาตรฐานของภิกษุสาวก ถ้าเป็นหญิงผู้มีศรัทธา
ก็พึงอ้อนวอนขอให้เป็นเช่นภิกษุณีเขมาและอุบลวรรณาเถรี
และถ้าเป็นอุบาสกก็ขอให้เป็นเช่นจิตตคฤหบดี หรืออุบาสิกาก็
ขอให้เป็นเช่นอุบาสิกา ตชุตตรา เป็นต้น
พวกเราเป็นนักสร้างบารมี ควรจะทำอย่างบัณฑิตผู้รู้
ทั้งหลาย ที่ท่านได้ทําไว้เป็นแบบอย่าง ยามประสบทุกข์ภัยในชีวิต
ก็ให้นึกถึงความดีที่เราได้ทำไว้ดีแล้ว ทุกครั้งที่มีโอกาสทำความ
ดีก็ให้อธิษฐานจิตกำกับเสมอ อธิษฐานบารมีของเราจะได้
เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้ทำความดี
สร้างสิ่งที่ดีงามมากมายให้เกิดขึ้นแก่โลก เราควรหมั่นระลึกถึง
ความดีเหล่านั้น บุญกุศลจะได้เกิดขึ้นกับเราตลอดเวลา เมื่อใจ
เป็นบุญกุศล นึกคิดปรารถนาสิ่งใดก็จะสมปรารถนา ฉะนั้นให้
ตั้งใจทําความดีให้เต็มที่ แล้วเราจะสมปรารถนากันทุกๆ คน