ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bull
อานิสงส์ถวายม้าอาชาไนย
๓๔๔
เป็นครั้งหลังสุด เราละความชนะและความแพ้แล้ว ได้ถึง
ฐานะอันไม่หวั่นไหว ในกัปที่ ๓,๕๐๐ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
ผู้เป็นกษัตริย์มีเดชมาก ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ
มีพละมาก ก็ด้วยอานุภาพแห่งบุญกรรมนั้น”
คําปรารถนี้ เป็นวาจาที่เปล่งออกมาด้วยความสุขโสมนัส
ในผลแห่งความดีงามที่บังเกิดขึ้นกับพระอรหันต์รูปหนึ่ง เป็น
มหาปีติที่ไม่ได้หมายความว่าจะบังเกิดขึ้นได้อย่างง่ายๆ จะ
บังเกิดขึ้นแก่ผู้ที่ได้ทำความดีแล้วเท่านั้น เพราะผู้ที่สร้างบุญ
ย่อมบันเทิงในทุกที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ แม้มีชีวิตอยู่ในโลกนี้
ก็ย่อมบันเทิง ละจากโลกนี้ไปแล้วก็บันเทิงใจในสุขที่ได้รับจาก
ทิพยสุขในสุคติโลกสวรรค์
เหมือนประวัติการสร้างบารมีของผู้มีบุญท่านนี้ ซึ่งใน
ภพชาติสุดท้าย ท่านได้บรรลุธรรมอันสูงสุด และได้ย้อนกลับไป
ดูภาพการสร้างบารมีในอดีต เห็นการสร้างบุญของตัวท่านเอง
ที่ได้สั่งสมไว้ ก็บังเกิดมหาปีติ เห็นคุณค่าของบุญ และเนื้อนาบุญ
คือพระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ท่านจึง
ได้เปล่งอุทานออกมาอย่างนั้น
เรื่องที่จะนำมาเล่าในครั้งนี้ เป็นเรื่องอดีตชาติของพระ
โอปวยหเถรเจ้า ซึ่งท่านได้เกิดมาสั่งสมบุญในพระพุทธศาสนา