ข้อความต้นฉบับในหน้า
อานิสงส์ถวายอาสนะสงฆ์
๑๔๖
แม้ท้าวสักกะราชาแห่งเทพก็ได้ตรัสเป็นคาถาไว้ว่า
“เมื่อจิตเลื่อมใสในพระตถาคตสัมพุทธเจ้า หรือพระสาวกของ
พระสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทักษิณาไม่ชื่อว่ามีผลน้อยเลย”
ถ้อยคำนี้ได้แพร่ไปทั่วชมพูทวีป มนุษย์ทั้งหลายพากันให้ทาน
ตามสมควรแก่อัตภาพของตน แก่สมณพราหมณ์ วณิพกและ
ยาจกทั้งหลาย ได้ตั้งนํ้าดื่มไว้ที่ลานบ้าน ปูอาสนะไว้ที่ซุ้มประตู
สมัยนั้น พระเถระผู้ถือปิณฑปาติกธุดงค์เป็นวัตรรูปหนึ่ง
มีอากัปกิริยาที่สงบสำรวมน่าเลื่อมใส ถึงพร้อมด้วยอิริยาบถ ได้
บิณฑบาตมาถึงเรือนหลังหนึ่ง เรือนหลังนั้น มีกุลธิดาผู้หนึ่ง ถึง
พร้อมด้วยศรัทธา เห็นพระเถระ ก็เกิดความเคารพนับถือมาก
จึงนิมนต์ให้ท่านเข้าไปยังเรือน ได้ไหว้ด้วยเบญจางคประดิษฐ์
จัดตั้งของตน ปูผ้าเนื้อเกลี้ยงสีเหลืองบนตั่งนั้นถวาย เมื่อ
พระเถระนั่งอยู่บนฝั่งนั้นแล้ว นางคิดว่า “บุญเขตสูงสุดนี้ปรากฏ
แก่เราแล้ว” นางมีจิตเลื่อมใสบำรุงด้วยอาหารตามสมควรแก่
ทรัพย์สมบัติ แล้วได้ถวายพัดอีกด้วย เมื่อพระเถระฉันเสร็จ
ก็กล่าวอนุโมทนาในความเป็นผู้มีจิตเลื่อมใสของนาง กุลธิดาได้
พิจารณาถึงทานของตนและธรรมิกถานั้น เกิดความปีติแผ่ซ่าน
ไปทั่วเรือนร่าง นางจึงได้ถวายตั่งนั้นแด่พระเถระ
เมื่อนางละโลก ได้ไปบังเกิดในวิมานทองขนาด ๑๒ โยชน์
ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีเทพอัปสร 9,000 เป็นบริวาร ด้วย