ข้อความต้นฉบับในหน้า
อานิสงส์ สมาทานศีล ๕
៤៧៨
“สมควรอย่างยิ่ง ธรรมเหล่านี้ย่อมสมควรแก่พวกท่าน” มหาชน
จึงขอสรณะและศีลกับมหาบุรุษนั้น
เนื่องจากมีคนบนเรือเป็นจํานวนมาก มหาบุรุษจึงแบ่งคน
เป็นกลุ่มๆ ละร้อยคน รวม ๗ กลุ่ม ต่อจากนั้นก็ให้สมาทานศีล
๕ มหาชนกลุ่มแรกได้ยืนรับสรณะและศีลขณะน้ำท่วมถึงข้อเท้า
กลุ่มที่ ๒ ยืนอยู่ในน้ำที่ท่วมถึงเข่า กลุ่มที่ ๓ ยืนอยู่ในน้ำที่ท่วม
ถึงสะเอว กลุ่มที่ ๔ ยืนในน้ำที่ท่วมถึงสะดือ กลุ่มที่ ๕ ยืนอยู่ใน
น้ำในระดับหน้าอก กลุ่มที่ 5 ยืนอยู่ในน้ำที่ท่วมถึงคอ และกลุ่ม
ที่ ๗ เป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับศีลในขณะที่น้ำกำลังไหลเข้าปาก
เมื่อมหาบุรุษให้ทุกคนรับศีล ๕ แล้ว ก็ประกาศว่า “สิ่งอื่นที่จะ
เป็นที่พึ่งของพวกเราไม่มี ขอพวกเราทั้งหลายจงรักษาศีล
ให้บริบูรณ์เถิด”
เมื่อคนเหล่านั้นละโลก ก็ได้ไปบังเกิดในภพดาวดึงส์
เพราะอาศัยศีลที่ตนรับไว้ก่อนตาย วิมานของเทวดาเหล่านั้น
บังเกิดขึ้นเป็นหมู่เป็นคณะเดียวกัน มีวิมานทองของมหาบุรุษ
ผู้เป็นอาจารย์มีประมาณร้อยโยชน์อยู่ในท่ามกลางวิมานทั้งหมด
เทพที่เหลือเป็นบริวารของเทพบัณฑิตอาจารย์นั้น ผู้คนทั้งหมด
รอดจากอบายภูมิ ก็ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่เกิดจากการ
สมาทานศีลนั่น คือ เกิดจากอำนาจบุญ ไม่ได้เกิดจากการ
อ้อนวอนแต่อย่างใด