ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเรll
อานิสงส์ถวายพวงมาลัย
๒๒๕
ผู้ที่ดูเบาในเรื่องของการฟังธรรมอยู่ คิดว่าวันนี้เราก็ได้เอาบุญ
กับพระเถระแล้ว และงานของเราก็ยังมีอีกเยอะที่ทำค้างเอาไว้
อย่ากระนั้นเลย เอาไว้โอกาสต่อไปจะดีกว่า จึงกล่าวกับ
พระเถระว่า “ข้าแต่พระคุณเจ้า วันนี้โยมยังมีงานที่จะต้อง
สะสางอีกมากมาย เอาไว้คราวหน้าโยมจะหาโอกาสไปฟังธรรม
ที่วัด” พระเถระพอได้ฟังอย่างนั้นท่านก็นิ่งๆ ไม่ได้แสดงอาการอะไร
พอนางกล่าวจบก็ได้ส่งพระเถระกลับ
และในเย็นวันนั้นเอง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
นางเกิดป่วยขึ้นมาอย่างกะทันหัน แล้วไม่สามารถที่จะเยียวยา
ได้ทันท่วงที นางผู้มีความปรารถนาจะฟังธรรม เพื่อยังจิตให้
เบิกบานผ่องใสยิ่งๆ ขึ้นไป ก็ไม่มีโอกาสอย่างนั้นแล้ว เธอได้เสีย
ชีวิตลง ในเย็นวันนั้นเอง พอละจากโลกนี้ไปแล้ว ด้วยอานุภาพ
แห่งการทำความดี ทำให้ไปเกิด เป็นเทพนารีอยู่บนสวรรค์ชั้น
ดาวดึงส์ มีมหาสมบัติอันเป็นทิพย์ที่ยิ่งใหญ่โอฬาร สิ่งที่แปลกกว่า
เทพธิดาองค์อื่นๆ ก็คือว่า รัศมีของนางมีแสงสว่างมาก ส่องแสง
ไปทั่วทุกทิศเกินกว่าเทพเหล่าอื่น มีวรรณะเป็นประภัสสร แผ่ซ่าน
ออกจากเรือนร่างทีเดียว แม้มหาวิมานของเทพนารีนั้น ก็มีรัศมี
อย่างนั้น วิมานของเธอจึงได้นามว่า ปภัสสรวิมาน ซึ่งแปลว่า
วิมานที่มีรัศมีแผ่ซ่านออกไป