ข้อความต้นฉบับในหน้า
อานิสงส์ สมาทานศีล ๕
๔๗๖
ทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ท่านนึกถึงอธิษฐานบารมีทันทีว่า
“ภูเขาหินศิลาแท่งบตั้งมั่นไม่หวั่นไหวไม่สะเทือนด้วยลมและแดด
ย่อมตั้งอยู่ในที่เดิม ฉันใด ท่านต้องไม่หวั่นไหวในความตั้งใจจริง
ตลอดกาลทุกเมื่อ ฉันนั้น”
การอธิษฐานเป็นการตั้งความปรารถนาที่เกิดจากฉันทะ
ด้วยจิตที่บริสุทธิ์ โดยการอ้างถึงความดีที่ได้ทํามาแล้ว เพื่อเป็น
เหตุหนุนนำให้เกิดความสำเร็จ เป็นการอ้างสิ่งที่มีอยู่จริงมาช่วย
ตนให้สำเร็จ เปรียบง่ายๆ คือ การอ้อนวอน เสมือนขอให้คนอื่น
มาช่วย ซึ่งอาจช่วยได้บ้างหรือไม่ได้บ้างตามแต่อารมณ์และ
ความสามารถของคนที่จะมาช่วยเรา แต่การอธิษฐานเป็นการ
ทำด้วยตนเอง พึ่งตนเองให้เป็นไปตามที่เราต้องการ
การอ้อนวอน คือ การอยากได้โดยไม่ประกอบเหตุ
และไม่ประกอบความเพียรในทางที่ชอบที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง หากความอยากมีมากๆ ก็จะกลายเป็นความโลภซึ่งมี
กิเลส คือ ตัณหาเป็นเครื่องหนุน สำหรับบุคคลที่มีคุณงาม
ความดี เขาย่อมไม่กลัวหรือกังวลต่อภัยใดๆ เพราะมั่นใจในผล
แห่งความดีที่ได้ทํามา หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น บุญหรือคุณความดี
ที่ทำมา ย่อมช่วยให้เขาพ้นจากภัยต่างๆ ได้ หรือถ้าเป็นภัย
ร้ายแรงถึงชีวิต เขาย่อมไม่กลัว และไม่สะทกสะท้านต่อมรณภัย