ข้อความต้นฉบับในหน้า
แม้เขาผู้นั้นโกรธเราแล้ว เขาจะได้ประโยชน์อะไร กรรมอันมีความโกรธเป็นเหตุ
ของเขาผู้นั้น มันจักบันดาลให้เป็นไปเพื่อความฉิบหายแก่เขาเองไม่ใช่หรือ เพราะว่าเขาผู้นั้น
เป็นทายาทแห่งกรรม เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เป็นผู้มีกรรมเป็นที่
พึ่งอาศัย เขาทำกรรมใดไว้ จะต้องได้รับผลของกรรมนั้น
อนึ่งกรรมของเขาผู้นั้นมันไม่สามารถบันดาลให้สำเร็จสัมมาสัมโพธิญาณปัจเจกโพธิ
ญาณ และสาวกภูมิ มันไม่สามารถบันดาลให้สำเร็จสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งในบรรดาสมบัติ
ทั้งหลาย เช่น ความเป็นพระพรหม พระอินทร์ พระเจ้าจักรพรรดิ และพระเจ้าประเทศราชได้เลย
ตรงกันข้าม กรรมของเรานี้ มันจะขับไล่ไสส่งให้เราออกจากพระศาสนาแล้วบันดาลให้ประสบ
ความตกต่ำกันดารในชีวิต เช่น ทำให้บังเกิดเป็นขอทาน หรือประสบทุกข์อย่างใหญ่หลวง เช่น
ทำให้ไปบังเกิดในมหานรกอย่างแน่นอน
เขาผู้นั้นเมื่อขืนกระทำอยู่อย่างนี้ ย่อมชื่อว่าโปรยธุลีคือความโกรธใส่ตนเองเหมือนผู้
จะโปรยฝุ่นธุลีใส่คนอื่นแต่ไปยืนอยู่ใต้ลมอย่างนั้น
ข้อนี้สมด้วยพุทธสุภาษิตในขุททกนิกาย ธรรมบทว่า
โย อปฺปทุฏฺฐสฺส นรสฺส ทุสสติ
สุทฺธสฺส โปสสฺส อนงฺคุณสุส
ตเมว พานํ ปจฺเจติ ปาป๊
สุขุโม รโช ปฏิวาตั๋ว ขิตโต
ผู้ใด ประทุษร้ายต่อนรชนผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสดุจเนิน
บาปย่อมกลับถึงผู้นั้นซึ่งเป็นคนพาลนั่นเองเหมือนธุลีอันละเอียดที่เขาซัด
ทวนลมไปฉะนั้น
5) บรรเทาความโกรธด้วยการพิจารณาถึงพุทธจริยาในปางก่อน
ถ้าผู้เจริญเมตตาได้พยายามพิจารณาถึงความที่ตนและคนอื่นเป็นผู้มีกรรมเป็นของ
ของตนอย่างนี้แล้ว ความโกรธแค้นก็มิได้สงบลง ก็ให้ระลึกถึงพระคุณ คือ พระจริยาวัตรใน
อดีตชาติของพระบรมศาสดาว่า
พระบรมศาสดาของเราในปางก่อนครั้งยังไม่ได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงเป็น
พระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมี 30 ทัศ อยู่ถึง 4 อสงไขย แสนมหากัปนั้น พระองค์ไม่ได้ทรงทำ
1
ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก.เล่ม 42 หน้า 48.
พ ร ห ม วิ ห า ร 4 DOU 41