ข้อความต้นฉบับในหน้า
6. ความเสื่อมเสีย :
ความสุข รื่นเริง โอ้อวด กำหนัด เกิดขึ้น เป็น
ความเสื่อมเสียของ มุทิตา
7. ข้าศึกใกล้ :
มีความยินดีที่เนื่องด้วยกามคุณอารมณ์เป็นศัตรูใกล้
ความไม่ยินดีไม่สบายใจในความเจริญของผู้อื่น เป็น
8. ข้าศึกไกล :
ศัตรูไกล
2.8 การเจริญมุทิตาเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ในการแผ่มุทิตาในวิชชาธรรมกายให้เริ่มจาก “ศูนย์กลางกาย” โดยเริ่มแผ่ความใสสว่าง
ออกมาจากศูนย์กลางกายให้ครอบคลุมตนเองก่อน จนเห็นตัวเองใสสว่างและมีความชื่นชมกับ
ตนเอง โดยอาจใช้คำบริกรรมภาวนาช่วย จากนั้นจึงแผ่ให้บุคคลตามลำดับโดยน้อมเอาบุคคลนั้น
มาไว้ที่ศูนย์กลางกายแล้วกลั่นให้ใสจนเหมือนกับเป็นตัวเอง ตั้งแต่บุคคลที่เรารักใคร่มาก บุคคลที่
เราไม่รักไม่ชัง และบุคคลที่เป็นศัตรูจนทุกคนใสสว่างเท่ากันเรามีความรู้สึกปรารถนาดีกับทุกคน
เท่ากันเหมือนเป็นตัวของเรา เรียกว่าถึงขั้น “สมสัมเภท”
จากนั้นใจก็จะรวมเป็นหนึ่งตกศูนย์เข้าถึง “ดวงธรรม” ที่แท้จริงภายใน จึงแผ่ขยายให้
กว้างขวางออกไปเป็น “ทิสาผรณา” คือ ทั่วไปทั้ง 10 ทิศ ให้ครอบคลุมขยายออกไปรอบตัว
ทั้งซ้าย ขวา หน้า หลัง ล่าง บน จนคลุมทั่วจังหวัด ประเทศ โลก และจักรวาล แล้วน้อมแผ่ไปสู่
ประเภทบุคคล 7 จำพวก เป็น “โอทิโสผรณา” และแผ่ไปโดยไม่จำกัดบุคคล 5 จำพวก เป็น
“อโนทิโสผรณา” จนเห็น “ดวงปฐมมรรค” ของเราขยายคลุมโลกจักรวาล สรรพสัตว์ที่อยู่ในนั้น
ใสสว่างเสมอเท่ากันหมดในดวงปฐมมรรคของเรา เรียกว่าเป็น “อัปปมัญญา”
2.9 การเจริญอุเบกขาภาวนา
อุเบกขา หมายความว่า การมีใจวางเฉยในสัตว์ทั้งหลาย ไม่มีอาการของเมตตา กรุณา
มุทิตา คือ ไม่น้อมไปในความปรารถนาดี ไม่น้อมไปในการบำบัดทุกข์ ไม่น้อมไปในการชื่นชม
ยินดีในความสุขความเจริญของเหล่าสัตว์แต่อย่างใดทั้งสิ้น
การเจริญอุเบกขา คือ การแผ่ความรู้สึกวางเฉยต่อสัตว์ทั้งหลาย โดยมีจิตใจที่ปราศจาก
อาการทั้ง 3 คือ
74 DOU สมาธิ 7 : ส ม า ก ม ม ฏ ฐ า น 4 0 วิธี