ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในร่างกายนี้ ส่วนที่แข็งหรือกระด้าง ส่วนนั้นเป็นปฐวีธาตุ ส่วนที่เกาะกุมเหนียว
เอิบอาบซึมซาบไหล ส่วนนั้นเป็นอาโปธาตุ สิ่งที่ทำให้สุกโดยอาการเจริญเติบโตเป็นหนุ่มสาว
หนังเหี่ยวย่นแก่หง่อมลงก็ดี ความเย็นร้อนในกายทั่วไปก็ดี เหล่านี้เป็นเตโชธาตุ สิ่งใดทำให้
อิริยาบถใหญ่น้อยเคร่งตึงตั้งมั่นก็ดี ทำให้เคลื่อนไหวไปมาได้ก็ดี เหล่านี้เป็น วาโยธาตุ
5.3.2 วิธีพิจารณาโดยพิสดาร
มีวิธีการพิจารณาตามลำดับดังต่อไปนี้
1) พิจารณาโดยสสัมภารสังเขป
คือ พิจารณาโกฏฐาสทั้งหลายเข้าเป็นหมู่ๆตามอาการของธาตุนั้นๆ โดยให้กำหนดเอา
อาการแขนแข็งในโกฏฐาส 20 ว่า ปฐวีธาตุ กำหนดเอาอาการซึมซาบอันเป็นความเหลวกล่าว
คือเป็นน้ำในโกฏฐาส 12 ว่า อาโปธาตุ กำหนดเอาความร้อนอันเป็นเครื่องเผาไหม้ในโกฏฐาส
4 ว่า เตโชธาตุ กำหนดเอาอาการพัดไปมาในโกฏฐาส 6 ว่า วาโยธาตุ
เมื่อกำหนดอยู่อย่างนั้น ธาตุทั้งหลายจะปรากฏได้ ผู้ปฏิบัติต้องพินิจพิจารณาธาตุ
ทั้งหลายนั้นแล้ว ๆ เล่า ๆ อุปจารสมาธิจะเกิดขึ้นตามนัยที่กล่าวแล้วนั้นแล แต่เมื่อใดเจริญไป
อย่างนั้น กัมมัฏฐานยังไม่สำเร็จ พึงเจริญโดยสสัมภารวิภัติต่อไป
2) พิจารณาโดยสสัมภารวิภัติ
คือ พิจารณาจำแนกโกฏฐาสแห่งธาตุนั้นออก กำหนดอาการไปทีละอย่าง โดยชั้นแรก
จึงทำอุคคหโกศล 7 ประการ และมนสิการโกศล 10 ประการ ที่กล่าวแล้วในกายคตาสติ
กัมมัฏฐานนั้นทุกอย่าง ตั้งต้นแต่สาธยายด้วยวาจา ซึ่งอาการทั้งหลาย มีอาการหมวด
ตจปัญจกะ เป็นต้น ในอาการ 32 ทั้งโดยอนุโลมและปฏิโลม ส่วนความแตกต่างกัน คือ
แม้พิจารณาอาการทั้งหลายมีผม เป็นต้น โดยสี สัญฐาน ทิศ โอกาส และปริเฉท แต่ใน
กายคตาสติ ต้องตั้งจิตไว้ทางปฏิกูล ในธาตุววัฏฐานนี้ต้องตั้งจิตไว้ทางธาตุเพราะฉะนั้นนักปฏิบัติ
ครั้นพิจารณาอาการทั้งหลายมีผมเป็นต้น อย่างละ 5 ส่วน โดยสีเป็นต้นแล้ว ในที่สุดควรพิจารณา
แต่ละโกฏฐาสดังนี้
1. ปฐวีโกฏฐาส
1.1 เกสา : ผมทงหลาย
ผมทั้งหลายนี้ เกิดที่หนังหุ้มกะโหลกศีรษะ ในหนังหุ้มกระโหลกศีรษะกับผม
122 DOU ส ม า ชิ 7 : ส ม ถ ก ม ม ฏ ฐ า น 4 0 วิธี