ข้อความต้นฉบับในหน้า
3.5 การเจริญอรูปกัมมัฏฐานในวิชชาธรรมกาย
การเจริญอรูปกัมมัฏฐานได้ ต้องเข้าถึงกายอรูปพรหมเสียก่อน แล้วอาศัยกายอรูปพรหม
นั้นเจริญอรูปกัมมัฏฐานตามที่ได้กล่าวมา
ทั้งรูปฌานและอรูปฌานที่อยู่ในกายต่าง ๆ ถ้าใช้กายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม
กายอรูปพรหม เข้าฌาน เรียกว่า โลกียฌาน ผลที่ได้ คือ อภิญญา 5 ได้แก่ ตาทิพย์ หูทิพย์ ระลึก
ชาติได้ รู้วาระจิต ทำฤทธิ์ได้หลายอย่าง ยังอยู่ในภูมิของสมถะ
แต่ถ้าใช้กายธรรมเข้าฌานเรียกว่า โลกุตตรฌานเป็นบาทเพื่อก้าวเข้าสู่ภูมิของวิปัสสนา
ดังที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ได้อธิบายไว้ในวิธีการเข้าฌานสมาบัติ
หนังสือคู่มือสมภาร ว่า
“ดูดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ที่ศูนย์กลางกายมนุษย์ให้เห็นเป็นดวงใส แล้วขยาย
ให้กว้างออกไป วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 2 วา หนา 1 คืบ วัดโดยรอบ 6 วา สัณฐานกลม (ไม่ใช่
กลมรอบตัวเป็นดวง ลักษณะคล้ายเขียง) ใสเหมือนกระจกส่องหน้า นี่เป็นปฐมฌานแล้วกายธรรม
นั่งบนนั้น ดังนี้เรียกว่า กายธรรมเข้าปฐมฌาน
แล้วเอาตาธรรมกายที่นั่งบนฌานนั้น เพ่งดูดวงธรรมที่ศูนย์กลางกายทิพย์ให้เห็นเป็น
ดวงใส แล้วขยายส่วนเท่ากันนั้น นี่เป็นทุติยฌาน ธรรมกายน้อมเข้าทุติยฌานนั้นแล้วปฐมฌาน
ก็หายไป ทุติยฌานมาแทนที่ ธรรมกายนั่งบนนั้น นี้ชื่อว่า ธรรมกายเข้าทุติยฌาน
แล้วเอาตาธรรมกายที่นั่งบนฌานนั้น เพ่งดูดวงธรรมที่ศูนย์กลางกายรูปพรหมให้เห็น
เป็นดวงใส แล้วขยายส่วนเท่ากันนั้น นี่เป็นตติยฌาน ธรรมกายน้อมเข้าตติยฌานนั้นแล้ว
ทุติยฌานก็หายไป ตติยฌานมาแทนที่ ธรรมกายนั่งบนนั้น นี้ชื่อว่า ธรรมกายเข้าตติยฌาน
แล้วเอาตาธรรมกายที่นั่งบนฌานนั้น เพ่งดูดวงธรรมที่ศูนย์กลางกายอรูปพรหม ให้เห็น
เป็นดวงใส แล้วขยายส่วนเท่ากันนั้น นี่เป็นจตุตถฌาน ธรรมกายน้อมเข้าจตุตถฌานนั้นแล้ว
ตติยฌานก็หายไป จตุตถฌานมาแทนที่ ธรรมกายนั่งบนนั้น นี้ชื่อว่า ธรรมกายเข้าจตุตถฌาน
(เหล่านี้เป็นรูปฌาน)
ต่อจากนี้ไปให้ใจธรรมกายน้อมไปใน “เหตุว่างของปฐมฌาน” เห็นเป็นดวงใสเท่า
จตุตถฌาน ธรรมกายก็นั่งบนนั้น เมื่อธรรมกายนั่งอยู่บน อากาสานัญจายตนฌาน ดังนี้แล้ว
1
คู่มือสมภาร, (กรุงเทพฯ: บริษัท ศิริวัฒนาอินเตอร์พรินท์ จำกัด, 2545), หน้า 25.
100 DOU สมาธิ 7 : ส ม ถ ก ม ม ฏ ฐ า น 4 0 วิธี