ข้อความต้นฉบับในหน้า
6. ความเสื่อมเสีย :
5. ความสมบูรณ์ : ความสงบลงแห่งโทสจิตตุปบาท
ในอันที่จะทำ
การเบียดเบียนสัตว์เป็นความสมบูรณ์แห่งกรุณา
การเกิดขึ้นแห่งความเศร้าโศก เป็นความเสื่อมเสียของ
กรุณา
7. ข้าศึกใกล้ :
8. ข้าศึกไกล :
ความเสียใจที่เนื่องด้วยกามคุณอารมณ์ เป็นศัตรูใกล้
ความเบียดเบียนสัตว์ เป็นศัตรูไกล
2.6 การเจริญกรุณาเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย
เป็นไปในทำนองเดียวกันกับเมตตาภาวนาแตกต่างกันแต่ลำดับบุคคลที่แผ่ให้ในตอนต้น
และอารมณ์ธรรมที่เกิดขึ้น คือ ในการแผ่กรุณาในวิชชาธรรมกาย ให้เริ่มจาก “ศูนย์กลางกาย”
โดยเริ่มแผ่ความใสสว่างออกมาจากศูนย์กลางกายให้ครอบคลุมตนเองก่อน จนเห็นตัวเองใสสว่าง
และมีความปรารถนาให้ตนเองพ้นจากความทุกข์ โดยอาจใช้คำบริกรรมภาวนาช่วย จากนั้นจึงแผ่
ให้บุคคลตามลำดับโดยน้อมเอาบุคคลนั้นมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย แล้วกลั่นให้ใสจนเหมือนกับเป็น
ตัวเอง ตั้งแต่ บุคคลที่ตกทุกข์ได้ยาก บุคคลที่รัก บุคคลที่เราไม่รักไม่ชัง และบุคคลที่เป็นศัตรู
จนทุกคนใสสว่างเท่ากัน เรามีความรู้สึกปรารถนาให้ทุกคนพ้นจากความทุกข์เท่ากันเหมือนเป็น
ตัวของเรา เรียกว่าถึงขั้น “สมสัมเภท”
จากนั้นใจก็จะรวมเป็นหนึ่งตกศูนย์เข้าถึง “ดวงธรรม” ที่แท้จริงภายใน จึงแผ่ขยายให้
กว้างขวางออกไปเป็น “ทิสาผรณา” คือ ทั่วไปทั้ง 10 ทิศ ให้ครอบคลุมขยายออกไปรอบตัว
ทั้งซ้าย ขวา หน้า หลัง ล่าง บน จนคลุมทั่วจังหวัด ประเทศ โลก และจักรวาล แล้วน้อมแผ่ไปสู่
ประเภทบุคคล 7 จำพวก เป็น “โอทิโสผรณา” และแผ่ไปโดยไม่จำกัดบุคคล 5 จำพวก เป็น
“อโนทิโสผรณา” จนเห็น “ดวงปฐมมรรค” ของเราขยายคลุมโลกจักรวาล สรรพสัตว์ที่อยู่ในนั้น
ใสสว่างเสมอเท่ากันหมดในดวงปฐมมรรคของเรา เรียกว่าเป็น “อัปปมัญญา”
2.7 การเจริญมุทิตาภาวนา
มุทิตา หมายความว่า ความพลอยยินดีรื่นเริงบันเทิงในความสุขสมบูรณ์ของผู้อื่น จิตใจ
ของผู้มีมุทิตาจิต จะถือเอาสัตว์ที่มีความสุขเป็นอารมณ์
การเจริญมุทิตา คือ การแผ่ความรู้สึกบันเทิงใจในความสุขความสมบูรณ์ของผู้อื่น
พ ร ห ม วิ ห า ร 4
DOU 67