ข้อความต้นฉบับในหน้า
ผลมาก มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด”
อาหาเรปฏิกูลสัญญาเป็นกัมมัฏฐานที่มีความละเอียดลึกซึ้งเป็นอารมณ์ที่ต้องใช้ปัญญา
ในการพิจารณา ดังนั้น กัมมัฏฐานจึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นพุทธิจริต รู้จักคิดวิเคราะห์ถึง
ความเป็นจริงของสรรพสิ่ง
4.2 ความหมายของอาหารเรปฏิกูลสัญญา
คำว่า อาหาร หมายถึง สิ่งที่นำผลมาให้แก่ตน เป็นคำบ่งถึงการดำรงชีพของสัตว์ทั้งหลาย
พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อาหาร4 อย่างเหล่านี้เพื่อความตั้งอยู่แห่งเหล่าสัตว์ที่เกิดแล้วบ้าง
เพื่อความอนุเคราะห์เหล่าสัตว์ที่แสวงหาภพที่เกิดบ้าง อาหาร 4 อย่าง เป็นไฉน อาหาร 4 อย่าง
คือ กวฬิงการาหาร อันหยาบหรือละเอียดเป็นที่ 1 ผัสสาหารเป็นที่ 2 มโนสัญเจตนาหารเป็นที่
3 วิญญาณาหารเป็นที่ 4”
จะเห็นได้ว่าอาหารที่เป็นไปเพื่อการตั้งอยู่แห่งสัตว์พระพุทธองค์ตรัสว่ามีอยู่ 4 อย่างคือ
1. กวฬิงการาหาร อาหาร คือ คำข้าว ได้แก่ อาหารที่เราบริโภคทุกมื้อทุกวันนั้นเอง
เป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงร่างกายไว้
2. ผัสสาหาร อาหาร คือ ผัสสะหรือสัมผัสต่าง ๆ ที่กระทบอายตนะ 6 เป็นปัจจัย
หล่อเลี้ยงนาม คือ ทำให้เกิดสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออุเบกขาเวทนา
3. มโนสัญเจตนาหาร อาหาร คือ มโนสัญเจตนา หรืออาหาร คือ ความนึกคิดทางใจ
เป็นเหตุให้ทำ พูด คิด เป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงกรรม
4. วิญญาณาหาร อาหาร คือ วิญญาณ หรือวิญญาณเป็นอาหารเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงให้
เกิดนามรูป
ปฏิกูลสัญญา หมายถึง การกำหนดหมายว่าเป็นสิ่งปฏิกูล
1
อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต, มก. เล่ม 38 ข้อ 56 หน้า 185.
2
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์, มก. เล่ม 19 ข้อ 446 หน้า 176.
อ า ห าเรปฏิกูลสัญญา DOU 107