ข้อความต้นฉบับในหน้า
ก็ทำนองเดียวกัน เพราะเหตุนั้น จึงห้ามไม่ให้เจริญกรุณาไปเป็นอันดับแรกในบุคคล 5 จำพวก
ดังที่กล่าวมาข้างต้น
ส่วนเพศตรงข้ามกับคนที่ตายแล้ว ไม่ควรนำมาเป็นอารมณ์ในการเจริญกรุณา
กัมมัฏฐาน ด้วยเหตุผลดังที่แสดงไว้แล้วในเมตตาภาวนา
3. คนที่ควรเจริญกรุณาอันดับแรก
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสแสดงไว้เป็นแนวทางในการเจริญกรุณาภาวนาไว้ว่า
ภิกษุผู้ประกอบด้วยกรุณาย่อมแผ่กรุณาจิตไปทางทิศหนึ่งอยู่นั้นคือ
ทำอย่างไร ภิกษุผู้ประกอบด้วยกรุณา ย่อมแผ่เมตตาไปยังสัตว์ทั้งปวงทุกๆ
จำพวก เหมือนอย่างที่ได้เห็นคนอื่น ซึ่งเข็ญใจได้ทุกข์ ประกอบด้วย
บาปกรรมทำชั่วคนหนึ่งแล้วจึงเกิดความกรุณาขึ้นฉะนั้น
ดังนั้นผู้ปฏิบัติเมื่อเห็นใครก็ตามที่เป็นคนน่าสงสารได้ประสบกับความทุกข์ยาก
ลำบาก เป็นคนเข็ญใจตกทุกข์ได้ยากประกอบกรรมทุจริต เป็นคนกำพร้าขาดแคลนอาหารต้อง
เที่ยวขอทานเลี้ยงชีพนั่งอยู่ในโรงพักคนอนาถามีหมู่หนอนไต่ออกมาจากแผลที่มือและเท้าส่งเสียง
ร้องไห้คร่ำครวญพร่ำพิไรรำพันอยู่อย่างน่าเวทนา เมื่อเห็นอย่างนั้น จึงยังกรุณาจิตให้เป็นไปใน
คนเช่นนั้นเป็นอันดับแรก ด้วยบทภาวนาว่า
กิจจ์ วตาย สตฺโต อาปนฺโน, อปเปว นาม อิมมหา ทุกฺขา มุจฺเจยฺย
สัตว์ผู้นี้ประสบความลำบากแท้หนอ ขอจงพ้นจากทุกข์นี้เสียเถิดหนา
อีกบทหนึ่งว่า
อยู๋ สตฺโต ทุกฺขา มุจฺจนฺตุ
ขอสัตว์ผู้นี้จงพ้นจากทุกข์เสียเถิด
สำหรับตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปภาวนาว่า
สพฺเพ สตฺตา ทุกฺขา มุจฺจนฺตุ
ขอสัตว์ทั้งหลายจงพ้นจากทุกข์เสียเถิด
1
พระอภิธรรม วิภังค์, มก. เล่ม 78 ข้อ 744 หน้า 443.
พ ร ห ม วิ ห า ร 4
DOU 61