ข้อความต้นฉบับในหน้า
2. คนที่ควรเจริญมุทิตาเป็นอันดับแรก
เมื่อจะทำการแผ่มุทิตา บุคคลที่เป็นที่ตั้งให้มุทิตาเกิดขึ้นได้ในอันดับแรก คือ ผู้เป็นเพื่อน
ที่รักมากหรือที่ในอรรถกถาเรียกว่าสหายนักเลง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยสนุกสนานรื่นเริง พบกันก็
ยิ้มก่อนแล้วค่อยพูดเสมอ ผู้ปฏิบัติสามารถแผ่มุทิตาให้สหายที่รักยิ่งก่อนก็ได้ หรือได้ยินข่าวว่า
คนที่รักได้รับความสุข สมบูรณ์พร้อมไปด้วยเครื่องบำรุงบำเรอต่างๆ อย่างครบครันก็ได้เช่นเดียวกัน
ให้เจริญมุทิตาไปยังบุคคลเหล่านั้นก่อนที่จะเจริญไปยังบุคลอื่น คือ พึงเจริญด้วยบทภาวนาว่า
โมทติ วตาย์ สตฺโต อโห สาธุ, อโห
สัตว์ผู้นี้ร่าเริงจริงหนอ, ขออนุโมทนาด้วยเถิดหนา
หรืออีกแบบหนึ่งว่า
สุฏฺฐ
อยู๋ สตฺโต ยถาลทฺธสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉตุ
ขอสัตว์ผู้นี้จงอย่าได้พลัดพรากจากสมบัติที่ได้แล้วเลย
ถ้าตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ใช้บทภาวนาว่า
หรือว่า
เอเต สตฺตา ยถาลทฺธสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉตุ
ขอสัตว์เหล่านี้จงอย่าได้พลัดพรากจากสมบัติที่ได้แล้วเลย
สพฺเพ สตฺตา ยถาลทฺธสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉตุ
ขอสัตว์ทั้งหลายจงอย่าได้พลัดพรากจากสมบัติที่ได้แล้วเลย
ผู้ปฏิบัติพึงนึกในใจตามบทภาวนาอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมุทิตาปรากฏชัดขึ้นใน
ใจและได้บรรลุอุปจารสมาธิและอัปปนาสมาธิตามลำดับ
ในการเจริญมุทิตาพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถึงแนวทางในการเจริญภาวนาซึ่งปรากฏอยู่
ในคัมภีร์วิภังค์ปกรณ์ ความว่า
ภิกษุผู้มีจิตประกอบด้วยมุทิตา ย่อมแผ่มุทิตาจิตไปทางทิศ
หนึ่งอยู่นั้นคือทำอย่างไรภิกษุผู้ประกอบด้วยมุทิตาย่อมแผ่มุทิตาจิตไปยัง
สัตว์ทั้งปวงทุกๆ จำพวกเหมือนอย่างที่ได้เห็นคนอื่นซึ่งเป็นที่รักใคร่เป็นที่
เจริญใจ คนหนึ่งแล้วจึงพลอยโมทนายินดีด้วยฉะนั้น
พ ร ห ม วิ ห า ร 4 DOU 69