ข้อความต้นฉบับในหน้า
มุทิตา เมื่อว่าโดยสามัญแล้วมี 2 อย่าง คือ
1. มุทิตาแท้ คือ แม้จะมีความรื่นเริงบันเทิงใจต่อสัตว์ที่มีสุขอยู่ หรือจะได้รับสุขต่อไป
ข้างหน้าก็ดี จิตใจก็มิได้มีการยึดถือหรืออยากโอ้อวดต่อผู้อื่นแต่อย่างใดมีแต่ความเบิกบานแจ่มใส
เป็นมหากุศลจิต
อยากได้ดีมีหน้ามี
2. มุทิตาเทียม คือ แม้จะมีความยินดีปรีดาก็จริง แต่ก็มีการยึดถือ อยากได้ดี
ตาซ่อนอยู่ จิตไม่เป็นมหากุศล แต่เป็นด้วยอำนาจโลภะ มุทิตาเทียมส่วนมากเกิดขึ้นในกรณี
บิดามารดา ญาติพี่น้อง บุตรธิดา มิตรสหายได้ดีมีสุข ย่อมยึดว่าผู้นั้นมีความสัมพันธ์อย่างนั้น
อย่างนี้กับตน ได้หน้าตาและได้ประโยชน์ร่วมด้วย
2.7.1 ขั้นตอนการเจริญมุทิตา
การเจริญมุทิตาภาวนา ต้องใช้มุทิตาแท้ และแผ่ไปยังสัตว์ทั้งหลายที่กำลังมีความสุขอยู่
หรือที่จะมีในเวลาข้างหน้า
ผู้ปฏิบัติเมื่อมีความประสงค์จะเจริญมุทิตาพรหมวิหารนั้น ในเบื้องต้นให้เตรียมทำ
บุพกิจให้เสร็จเสียก่อน นับตั้งแต่ตัดปลิโพธิ์ทั้ง 10 ประการ จนไปถึงนั่ง ณ อาสนะที่เตรียมไว้
อย่างเรียบร้อย เหมือนอย่างที่แสดงไว้ในเมตตาภาวนาทุกประการ จากนั้นจึงเจริญมุทิตา
ภาวนาต่อไป
1. บุคคลที่ควรเว้นในการเจริญมุทิตาเป็นอันดับแรก
เมื่อจะเจริญมุทิตานั้น มีบุคคล 3 จำพวกที่ห้ามเจริญไปถึงเป็นอันดับแรก คือ คนที่รัก
คนเป็นกลาง ๆ คนคู่เวร เพราะว่า คนที่รักไม่ได้เป็นฐานของมุทิตาจิต เพียงแต่เป็นที่รักเท่านั้น
นั่นก็คือ คนที่เป็นที่รักกันอย่างธรรมดาแต่ขาดคุณสมบัติพิเศษประจำตัวเช่นความเป็นผู้มีหน้าตา
แช่มชื่นเบิกบานอยู่เสมอ เป็นผู้ฉลาดทักทายก่อน ความเป็นคนพูดจาไพเราะ มีมารยาท
เรียบร้อยอ่อนโยนและความสนุกสนานร่าเริง ผู้ที่ขาดคุณสมบัติดังกล่าวแม้ว่านับเนื่องอยู่ในกลุ่ม
ของคนที่รักนับถือก็ตาม ก็ไม่พอที่จะทำให้มุทิตาพรหมวิหารเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติเป็นอันดับแรก
ได้ยิ่งคนที่เป็นกลาง ๆ และคนคู่เวรด้วยแล้ว ยิ่งห่างไกลความเป็นที่ตั้งให้เกิดมุทิตาภาวนาขึ้นเป็น
อันดับแรกมากขึ้นไปอีก
ส่วนเพศตรงข้าม กับคนที่ตายแล้ว จะเอามาเป็นอารมณ์ของมุทิตากัมมัฏฐานไม่ได้เลย
สาเหตุก็เช่นเดียวกับที่กล่าวไว้แล้วในเมตตาภาวนา
68 DOU สมาธิ 7 : ส ม า ก ม ม ฏ ฐ า น 4 0 วิธี