ข้อความต้นฉบับในหน้า
4. วิจฺฉินฺทกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดในความเป็นชิ้นทึบในสรีระเพราะ
เผยความเป็นโพรงข้างใน
5. วิกฺขายตกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดในเนื้อนูน ในตำแหน่งแห่งสรีระ
ต่าง ๆ มีถัน เป็นต้น เพราะแสดงความสูญเสียสมบัติแห่งเนื้อนูน
6. วิกขิตตกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดในลีลา (ท่าทาง) ของอวัยวะน้อย
ใหญ่ เพราะชี้ให้เห็นความกระจัดกระจายแห่งอวัยวะเหล่านั้น
7. หตวิกขิตตกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดในสมบัติแห่งเรือนร่างของกาย
เพราะชี้ให้เห็นถึงความผิดรูปและความแตกทำลายไปแห่งเรือนร่าง
8. โลหิตกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดในความงามที่เกิดจากการประดับ
ด้วยเครื่องประดับ เพราะชี้ให้เห็นถึงความปฏิกูลที่เปรอะเปื้อนด้วยโลหิต
9. ปุฬวกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดในกายด้วยความสำคัญว่าเป็นกาย
ของเรา เพราะชิไ
ะชี้ให้เห็นถึงความที่กายเป็นของสาธารณะแก่หมู่หนอนเป็นอันมาก
10. อฏฐิกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดในสมบัติแห่งฟัน เพราะประกาศ
ความที่กระดูกในร่างกายนี้เป็นของปฏิกูล
1.7 ตัวอย่างบุคคลที่เจริญอสุภกัมมัฏฐาน
ในสมัยพุทธกาลมีตัวอย่างบุคคลที่เจริญอสุภกัมมัฏฐาน จนใจหยุดนิ่งบรรลุธรรม
หลายท่าน ในที่นี้จึงยกมาเป็นตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
1. พระมหากาลบรรลุอรหัตต์เพราะดูศพไหม้ไฟ
มหากาลมีจิตเลื่อมใสในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อออกบวชแล้วได้บำเพ็ญ
ธุดงค์ข้อโสสานิกธุดงค์ ต้องอยู่ในป่าช้า และได้เจริญอสุภกัมมัฏฐาน ในคราวนั้นมีหญิงสาว
คนหนึ่งได้ป่วยเสียชีวิตลงในเวลาเย็นร่างกายยังเต่งตึง สดอยู่ พวกญาติได้หามศพหญิงสาวคนนั้น
ไปสู่ป่าช้า พร้อมด้วยเครื่องเผาต่างๆ มีพื้นและน้ำมัน เป็นต้น ได้ให้ค่าจ้างแก่หญิงเฝ้าป่าช้า เพื่อ
ให้ทำการเผาศพให้แล้วหลีกไป คนเฝ้าป่าช้าได้เปลื้องผ้าห่มของหญิงสาวคนนั้นออกแล้ว เห็น
ร่างกายซึ่งตายเพียงครู่เดียวนั้นงดงาม จึงคิดว่า “ร่างกายนี้ควรจะแสดงแก่พระผู้คุณเจ้า” จึงเข้าไป
หา พระเถระแล้วกล่าวว่า “ท่านเจ้าข้า อารมณ์เห็นปานนี้มีอยู่ ขอพระคุณเจ้าจึงไปพิจารณาเถิด
อ สุภะ 1 0
DOU 15