การเจริญอสุภะและการพิจารณาความไม่สวยงามของร่างกาย MD 407 สมาธิ 7  หน้า 22
หน้าที่ 22 / 149

สรุปเนื้อหา

บทความนี้มีการกล่าวถึงการเจริญอสุภะที่เป็นวิธีการพิจารณาความไม่สวยงามในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นซากศพที่ไม่มีชีวิตหรือร่างกายที่ยังมีชีวิต นอกจากนี้ยังพูดถึงปัจจัยที่ทำให้ผู้ปฏิบัติอาจเข้าใจผิดและกลัว ทำให้ควรมีเพื่อนสหายในการปฏิบัติ และการมองร่างกายในแง่มุมที่แตกต่างออกไปว่าร่างกายเป็นเพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติไม่ใช่สิ่งสวยงามที่ควรยึดมั่น โดยบทความนี้ส่งเสริมการทำความเข้าใจในจิตใจที่มักหลงผิดในความสวยงามของร่างกาย

หัวข้อประเด็น

-การเจริญอสุภะ
-การพิจารณาซากศพ
-ความไม่สวยงามในร่างกาย
-การควบคุมจิตใจ
-การปฏิบัติร่วมกับผู้อื่น

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3. ร่างกระดูกที่ไม่มีเนื้อและเลือด แต่ยังมีเส้นเอ็นรัดรึงอยู่ 4. ร่างกระดูกที่ไม่มีเส้นเอ็นรัดรึงแล้ว กระจัดกระจายทั่วไป 5. ร่างกระดูกเป็นท่อนมีสีขาวดังสีสังข์ 1.5 ข้อปฏิบัติเพิ่มเติมของการเจริญอสุภะ การเจริญอสุภกัมมัฏฐานนั้น สำหรับผู้ที่มีนิสัยขลาดกลัวหรือกลัวผี เมื่อเกิดอุคคหนิมิต และขาดอาจารย์คอยควบคุมสอนการปฏิบัติ ก็อาจเข้าใจผิดว่าตนเองถูกผีหลอก เกิดเจ็บป่วยได้ จึงควรทำความเข้าใจในการปฏิบัติให้ดีบางทีก่อนที่อุคคหนิมิตจะเกิดขึ้น ผู้ปฏิบัติอาจนึกคิดไปว่า ศพนี้จะลุกขึ้นนั่ง จะลุกขึ้นยืน จึงควรมีเพื่อนไปร่วมปฏิบัติด้วย และให้ทำความเข้าใจว่า ศพนั้น ที่จริงไม่ต่างกับท่อนไม้ไม่มีวิญญาณครอง ไม่มีจิตใจ จะลุกขึ้นมาหลอกหลอนไม่ได้ เป็นเพราะใจ ของเราคิดไปเองวาดภาพไปเอง ในบางกรณีที่ศพยังใหม่ยังสดอยู่เส้นเอ็นยึดทำให้ลุกขึ้นก็เป็นไป โดยธรรมชาติ ให้ใช้ไม้ตีให้ล้มลง การพิจารณาอสุภะนั้นนอกจากจะพิจารณาซากศพหรือร่างที่ปราศจากชีวิตดังกล่าว มาแล้ว ยังสามารถพิจารณาความเป็นอสุภะ หรือความไม่สวยงามในร่างกายของมนุษย์ที่ยังมี ชีวิตอยู่ ได้เช่นกัน โดยจะพิจารณาร่างกายของตนหรือผู้อื่นก็ได้ ดังต่อไปนี้ (พองอืด) 1. พิจารณาเมื่อร่างกายหรืออวัยวะบวมขึ้น ให้พิจารณาโดยความเป็น อุทธุมาตกะ 2. พิจารณาเมื่ออวัยวะเป็นแผล ฝี มีหนองไหลออกมา ให้พิจารณาโดยความเป็น วิปุพพกะ (น้ำเหลืองไหล แผลแตกปริ) 3. พิจารณาเมื่อแขน ขา มือ เท้า หรืออวัยวะขาดด้วน เพราะอุบัติเหตุหรือเหตุ อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้พิจารณาโดยความเป็น วิจฉัททกะ (อวัยวะขาดเป็นท่อน) 4. พิจารณาเมื่อมีโลหิตเปรอะเปื้อนร่างกาย ให้พิจารณาโดยความเป็น โลหิตกะ (เลือดไหล) 5. พิจารณาขณะที่แลเห็นฟัน ให้พิจารณาโดยความเป็น อัฏฐิกะ (กระดูก) หากจะ กล่าวไปแล้ว ความเป็นอสุภะไม่ได้เป็นเฉพาะเมื่อตายลงหรือเป็นซากศพเท่านั้น ร่างกายที่มี ชีวิตอยู่นี้หากพิจารณาให้ดีก็ไม่ใช่สิ่งสวยงาม แต่เพราะการตบแต่งประดับประดา และความ หลงผิดทำให้คิดไปว่าเป็นของสวยงามน่ารักน่าใคร่ จึงเกิดการยึดมั่นถือมั่น หวงแหน อ สุภะ 1 0 DOU 13
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More