การเจริญอุเบกขาและฌาน MD 407 สมาธิ 7  หน้า 85
หน้าที่ 85 / 149

สรุปเนื้อหา

เป็นการพูดถึงการพัฒนาความเข้าใจในด้านการเจริญอุเบกขา โดยเริ่มจากการเข้าสู่ฌานและพิจารณาถึงผลดีของอุเบกขา การพิจารณาความทุกข์และสภาพของสัตว์ และอานิสงส์จากการทำความดี โดยอยู่ในกรอบของกรรมและการปล่อยให้ทุกคนดำเนินชีวิตตามกรรมของตนเอง ความสำคัญคือการทำให้จิตใจเป็นกลาง สามารถเข้าใจและปฏิบัติในอุเบกขาได้อย่างแท้จริง.

หัวข้อประเด็น

-ฌานและอุเบกขา
-การพิจารณาผลของกรรม
-การปล่อยวางความรักและความชัง
-การพัฒนาจิตใจโดยเป็นกลาง
-ขั้นตอนการปฏิบัติธรรมเรื่องอุเบกขา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ให้สำเร็จถึงขั้นฌานได้เพราะเป็นอารมณ์กัมมัฏฐานคนละชนิดอีกทั้งมีสภาพไม่ถูกกัน (วิสภาคะ) นั่นคือ กสิณบัญญัติ หรือ อานาปานสติบัญญัติ เป็นอารมณ์ที่เน้นให้เห็นความไม่มีตัวตน เป็น ของจำแนกแยกแยะ ส่วนสัตว์บัญญัติในอัปปมัญญาพรหมวิหาร เน้นความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล จึงมีความแตกต่างกัน จึงไม่สามารถอุดหนุนกันได้ 1. กิจเบื้องต้นก่อนการเจริญอุเบกขา ก. ฌานลาภีบุคคลผู้มีความปรารถนาจะเจริญอุเบกขาพรหมวิหารนั้น ก่อนลงมือปฏิบัติ จะต้องเข้าสู่ตติยฌานที่ได้ทำจนชำนาญด้วยวสีทั้ง 5 ซึ่งมาจากการเจริญเมตตา กรุณา หรือมุทิตา อย่างใดอย่างหนึ่ง ข. เมื่อออกจากตติยฌานแล้ว จากนั้นพิจารณาให้เห็นโทษของเมตตา กรุณา และมุทิตา ว่า กัมมัฏฐานทั้งสามนั้น มีสภาพไม่ประณีต เนื่องจากในองค์ฌานยังประกอบด้วย โสมนัสเวทนาอยู่ จิตใจยังสาละวนวุ่นวายยินดีรักใคร่ในเหล่าสัตว์ ทั้งยังประพฤติเป็นไปใกล้ต่อ ความรักและความชัง จิตใจไม่ละเอียดสุขุม ต่างก็ยังสาละวนวุ่นวายอยู่กับสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ ด้วยการส่งจิตไปว่า ขอให้สัตว์ทั้งหลายมีความสุขเถิด เป็นต้น ยังเป็นภาวนาที่อยู่ใกล้กับ ความรักความชังอยู่ ทั้งยังมีอาการเป็นไปใกล้ต่อความดีใจในการที่จะต้องส่งจิตไปว่า ขอให้สัตว์ ทั้งหลายมีความสุขเถิด (เมตตา) ขอสัตว์ทั้งหลายจงพ้นจากทุกข์เสียเถิด (กรุณา) ขอสัตว์ทั้งหลาย จงเจริญเถิด (มุทิตา) ยังประกอบด้วยองค์ฌานที่หยาบ คือ ยังประกอบด้วยโสมนัสเวทนาอยู่ ค. พิจารณาให้เห็นอานิสงส์ของอุเบกขาว่า เป็นสภาพที่ละเอียดสุขุม ประณีต ห่างไกล จากกิเลสมาก และมีผลอันไพบูลย์ดีงามกว่าพรหมวิหาร 3 ข้อข้างต้นด้วย 2. บุคคลที่ควรเจริญอุเบกขาเป็นอันดับแรก ต่อจากนั้นให้ทำใจเป็นกลาง ๆ ในบุคคลเป็นกลาง ๆ โดยพิจารณาว่าคนทุกคนรวมทั้ง ตัวเราด้วย เป็นผู้มีกรรมเป็นของตน คนผู้นี้เมื่อเขามาเกิดในโลก เขาก็มาด้วยกรรมของเขาเอง เมื่อเขาจะจากโลกนี้ไป เขาก็ต้องไปด้วยอำนาจของกรรมที่เขาทำ แม้ตัวเราก็เหมือนกัน เมื่อจะ มาสู่โลกนี้หรือเมื่อต้องไปสู่โลกอื่นก็ด้วยอำนาจของกรรมที่เราได้กระทำไว้ทั้งสิ้น การที่เราจะ 1 วสี แปลว่าความชำนาญคล่องแคล่ว วสีทั้ง 5 คือ ชำนาญคล่องแคล่วในการนึกตรวจดูองค์ฌานที่ตนได้ออก มาแล้ว ชำนาญในการเข้าฌานได้รวดเร็วชำนาญในการรักษาจิตไม่ให้ตกภวังค์ ชำนาญในการออกจากฌานตามที่ตนต้องการ ช้านาญในการทวนองค์ฌาน 76 DOU ส ม า ชิ 7 : ส ม ถ ก ม ม ฏ ฐ า น 40 วิธี
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More