ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อได้ทำอาการทั้งหลายให้ถึงพร้อมด้วยการจับจ้องนิมิตอยู่อย่างนี้ อัปปนาสมาธิที่
เกิดขึ้นแล้ว ย่อมมั่นคง แม้ที่หายไปย่อมกลับคืนมาได้
1.7 คุณลักษณะพิเศษของกสิณ 10
กสิณมีลักษณะพิเศษหลายประการ เช่น เมื่อได้รูปฌาน 4 จากการเพ่งกสิณอย่างหนึ่ง
แล้ว ถ้าต้องการอุคคหนิมิตปฏิภาคนิมิตจากกสิณอีก 9 อย่างที่เหลือ ก็ไม่ต้องจัดทำองค์กสิณ
ขึ้นใหม่ ให้มองดูสิ่งอื่น ๆ ตามธรรมชาติ เช่น มองดูดิน (ปฐวีกสิณ) แล้วบริกรรมปฐวีๆๆ
(ดินๆ ๆ) หรือ ดูแม่น้ำ ไฟ ลม สีต่าง ๆ แสงสว่าง อากาศ แล้วบริกรรมตามคำบริกรรมตรงกับ
สิ่งที่เราเพ่งนั้นๆ อุคคหนิมิตปฏิภาคนิมิตก็จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ กสิณยังเป็นกัมมัฏฐานที่ทำให้ถึงฌานเร็วกว่ากัมมัฏฐานอื่นๆ เพราะการ
เพ่งกสิณนั้น อุคคหนิมิต ปฏิภาคนิมิตเกิดขึ้นง่าย ได้ฌานเร็ว โดยเฉพาะกสิณที่เกี่ยวกับสีทั้ง 4
แล้ว จะยิ่งเกิดอุคคหนิมิต ปฏิภาคนิมิตและฌานได้เร็วยิ่งกว่าภูตกสิณ พระพุทธองค์ทรง
ยกย่องโอทาตกสิณ (กสิณสีขาว) ว่าเลิศกว่ากสิณสีอื่น เพราะทำให้จิตใจของผู้ที่เจริญกสิณนั้น
ผ่องใส ปราศจากความเซื่องซึมง่วงเหงา ทั้งยังทำให้ผู้เจริญกสิณนี้ทราบเหตุการณ์ต่าง ๆ คล้าย
ผู้ทรงอภิญญาทั้งที่ยังไม่ได้อุคคหนิมิต
1.8 อานิสงส์พิเศษของการเจริญกสิณ
ในการปฏิบัติกสิณนอกจากจะส่งผลให้ได้ฌานแล้ว ในวิสุทธิมรรคยังได้กล่าวถึง
อานิสงส์พิเศษในการเจริญกสิณแต่ละอย่างที่ทำให้เกิดฤทธิ์พิเศษไว้ดังต่อไปนี้
1. ฤทธิ์เกิดด้วยอำนาจปฐวีกสิณ คือ นิรมิตคนเดียวให้เป็นหลายคนก็ได้เป็นต้น นิรมิต
แผ่นดินขึ้นในอากาศหรือในน้ำแล้วเดินไปได้หรือยืนและนั่งเป็นต้นในอากาศหรือในน้ำได้ ได้
อภิภายตนะ โดยมีอารมณ์นิดหน่อยและมีอารมณ์หาประมาณมิได้
2. ฤทธิ์เกิดด้วยอำนาจอาโปกสิณ คือ ผุดขึ้นและดำลงในแผ่นดินได้ทำน้ำฝนให้เกิดขึ้นได้
นิรมิตสิ่งขวางกั้นมีแม่น้ำและทะเลเป็นต้นได้ ทำของหนักมีแผ่นดิน ภูเขา และปราสาท เป็นต้น
* คำว่า ได้อภิภายตนะ คือ สามารถข่มปฏิปักขธรรมได้ และสามารถข่มอารมณ์ต่าง ๆ ทั้งอิฏฐารมณ์และ
อนิฏฐารมณ์ไม่ให้เกิดในใจได้
20 DOU สมาธิ 6 ส ม ก กั ม ม ฏ ฐ า น 4 0 วิ ธี (1)