พระอรหันต์และการหักกำจักร MD 306 สมาธิ 6  หน้า 44
หน้าที่ 44 / 156

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการตีความคำว่า "พระอรหันต์" และนัยความต่างๆ ของการหักกำจักรในแง่ของกิเลสและสังสาร โดยแบ่งออกเป็นหลายนัย เช่น นัยเกี่ยวกับกิเลส ความเพียร และอวิชชา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงหักกิเลสด้วยปัญญา ส่งผลให้หมดสิ้นภพชาติ ความแก่และความตาย นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ควรได้รับการบูชาและเป็นที่เคารพของพรหม เทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย โดยระบุว่า ทรงกำจัดกิเลสและทำกรรมชั่วในที่ลับไม่ได้อีกต่อไป บทความนำเสนอความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและหลักธรรมที่สำคัญ

หัวข้อประเด็น

-คำว่า พระอรหันต์
-การหักกำจักร
-นัยที่ 1 และ 2 ของสังสาร
-หลักแห่งอวิชชา
-ความบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ข้อความต้นฉบับในหน้า

(คือ วาสนา) เพราะเหตุนี้จึงทรงปรากฏพระนามว่า “พระอรหันต์” นัยที่ 2 ทรงหักกำจักร “กำจักร” หมายถึงกิเลสทั้งปวง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง หักกิเลสเหล่านั้นด้วยศาสตรา คือปัญญา เพราะเหตุนี้จึงทรงปรากฏพระนามว่า “พระอรหันต์” อนึ่ง คำว่า “จักร” หมายถึง “สังสาร” มีคำอธิบายแตกต่างกันเป็น 2 นัย คือ “สังสาร” ตามนัยที่ 1 อุปมาดัง “จักร” ซึ่งตามธรรมดามีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง คือ ดุม กำ และกง ตามนัยที่ 1 นี้ อวิชชาและภวตัณหาเปรียบได้กับ “ดุม” อภิสังขารเปรียบได้ กับ “กำ” ความแก่และความตายเปรียบได้กับ “กง” ดุม กำ และกง ประกอบกันขึ้นเป็นจักร หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ล้อ” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ “รถ” อันเปรียบได้กับ “ภพ 3” รถนี้ย่อมแล่นไปเรื่อยๆ โดยหาต้นชนปลายไม่ได้ นี่คือ ความหมายของ “สังสาร” หรือ “จักร” ตามนัยที่ 1 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จประทับยืนบนแผ่นดินด้วยพระบาท “ศีล” ของพระ พุทธองค์นั้นเปรียบได้กับ “แผ่นดิน” ส่วน “ความเพียร” เปรียบได้กับ “พระบาท” ทรงเอา พระหัตถ์ ซึ่งเปรียบได้กับ “ศรัทธา” จับขวานคือ “พระญาณ” ฟันกำของจักรให้ขาดสะบั้นลง หมดสิ้น รถจึง “หยุด” นิ่งสนิท เป็นอันสิ้นภพสิ้นชาติ ชรา มรณะ นี่คือความหมายของ “ทรง หักกำจักร” ตามนัยที่ 1 “สังสาร” ตามนัยที่ 2 อุปมาดัง “จักร” ที่ประกอบมาจาก “ปฏิจจสมุปบาท” คือมี “อวิชชา” เปรียบได้กับ “ดุม” เพราะเป็นมูลเหตุ “ชราและมรณะ” เปรียบได้กับ “กง” เพราะ เป็นที่สุด ส่วนธรรมอีก 10 ข้อที่เหลือในปฏิจจสมุปบาท เปรียบได้กับ “กำ” นี้คือ “สังสาร” ตามนัยที่ 2 เพราะเหตุที่ทรงหักกำจักรสิ้นแล้วจึงทรงปรากฏพระนามว่า “พระอรหันต์” นัยที่ 3 ทรงควรแก่ปัจจัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบริสุทธิ์หมดจดด้วยประการ ทั้งปวง จึงทรงเป็นทักขิไณยบุคคลอันเลิศยิ่ง ย่อมควรแก่ปัจจัยและการบูชาเป็นพิเศษ สำหรับ พรหม เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เพราะเหตุนี้ จึงทรงปรากฏพระนามว่า “พระอรหันต์” นัยที่ 4 ไม่ทรงทำชั่วในที่ลับ โดยเหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำจัดกิเลส ตัณหา และอวิชชาทั้งปวง ด้วยมรรคและญาณโดยสิ้นเชิงแล้ว การทำกรรมชั่วทั้งหลายแม้ในที่ลับ ย่อม 1 วาสนา คือ บุญ บารมี กุศลที่ทำให้ได้รับลาภยศ 34 DOU สมาธิ 6 ส ม ก กั ม ม ฏ ฐ า น 4 0 วิ ธี (1)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More