ข้อความต้นฉบับในหน้า
แสดงไว้ในภาษาบาลีดังต่อไปนี้
ยาวตา ภิกฺขเว ธมฺมา สงฺขตา วา อสังขตา วา วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อค
คมกฺขายติ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน, ปิปาสวินโย, อาลยสมัคฆาโต, วัฏฏปจฺเฉ
โท, ตณฺหกขโย, วิราโค, นิโรโธ, นิพพาน ฯ
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่าใดที่ถูกปรุงแต่งและไม่ถูก
ปรุงแต่งด้วยปัจจัยมีอยู่ ในบรรดาสังขตะ อสังขตะทั้ง 2 อย่างนี้ ธรรมใด
เป็นสภาพที่ย่ำยีความมัวเมาต่างๆ บรรเทาเสียซึ่งความกระหายใน
กามคุณอารมณ์ ถอนเสียซึ่งความอาลัยในกามคุณอารมณ์ ตัดเสียซึ่ง
การเวียนไปในวัฏฏะทั้ง 3 เป็นที่สิ้นสุดแห่งตัณหา ปราศจากราคะ เป็น
ที่ดับแห่งตัณหา และพ้นจากตัณหาอันเป็นเครื่องร้อยรัด คือ พระนิพพาน
นี้แหละ ตถาคตจึงกล่าวว่าเป็นธรรมอันประเสริฐยอดยิ่งอยู่ดังนี้”
ระลึกอย่างนี้เรื่อยๆ ไป ในการระลึกนั้น ผู้ปฏิบัติจะใช้ภาษาบาลีระลึกก็ได้ หรือ
ภาษาไทยตามที่ได้แปลไว้นั้นก็ได้ ระลึกในคุณทั้ง 8 หรือ 29 ประการ มี มทนิมุมทโน เป็นต้น
ดังนี้ก็ได้ ความสำคัญยิ่งอยู่ที่ผู้ระลึกจะต้องรู้อย่างถูกต้องถึงความหมายของคุณนั้น ๆ ไปด้วย
5.12 การเจริญอุปสมานุสติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคกล่าวไว้ว่าเมื่อเจริญอุปสมานุสติอย่างที่ได้อธิบายมานี้ทำให้ถึงเพียง
“อุปจารสมาธิ” ไม่สามารถส่งผลให้ได้ถึงฌานสมาบัติได้ เพราะว่าในบรรดากัมมัฏฐานทั้งหลาย
กัมมัฏฐานทั้ง 4 คือ มรณานุสติ อุปสมานุสติ อาหาเรปฏิกูลสัญญาและจตุธาตุววัตถาน เป็น
อารมณ์ที่มีสภาพละเอียดสุขุมลุ่มลึกยิ่งและยังมีความกว้างขวางลึกซึ้งอย่างไม่มีประมาณ
ผู้บำเพ็ญกัมมัฏฐานที่ยึดเอาอารมณ์เหล่านี้ จำเป็นต้องระลึกไปในพระคุณอันกว้าง
ขวางลึกซึ้งนั้น ตามกำลังสติปัญญาของตนโดยไม่มีประมาณ ดังนั้นองค์ฌานทั้ง 5 มีวิตกเป็นต้น
ไม่สามารถที่จะตั้งอยู่ในอารมณ์เหล่านี้แล้วทำให้สมาธิมีกำลังกล้าจนกระทั่งฌานเกิดขึ้นมา
ได้(วิมุตติ 1/115,82) แต่ในวิธีการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย เมื่อปฏิบัติจริง ๆ แล้ว
สามารถเลยไปกว่า “อุปจารสมาธิ” ได้ โดยปฏิบัติดังนี้
เมื่อระลึกถึงคุณของพระนิพพานเป็นอารมณ์ บริกรรมด้วยคำที่เป็นคุณของพระนิพพาน
บทที่ 5 อานาปานสติ และอุปสมานุสติ DOU 145