ข้อความต้นฉบับในหน้า
1. อิม์ กมฺมฏฺฐานํ ภาเวตวา อรหัตต์ ปตฺตานํ ภิกขูนํ วา ภิกขุนีน วา อุปา
สกานํ วาอุปาสิกานํ วา คณนปริจฺเฉโท นาม นตฺถิฯ
ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาที่ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์เพราะเจริญ
กายคตาสติกัมมัฏฐานนี้มีมากมาย นับจำนวนมิได้
2. โย หิ อิม ปฏิปตฺติ ปฏิปชฺชติ โส ภิกขุ นาม โหติ ปฏิปนฺนโก หิ เทโว วา
โหตุ มนุสฺโส วา ภิกขูติ สงฺขย์ คจฺฉติฯ
บุคคลใด ทำการปฏิบัติกายคตาสติกัมมัฏฐาน บุคคลนั้นได้ชื่อว่าเป็น
ภิกษุ เป็นความจริงดังนั้น ผู้ที่ปฏิบัติกายคตาสติกัมมัฏฐานนี้ จะเป็น
เทวดาก็ตาม มนุษย์ก็ตาม ย่อมนับว่าเป็นภิกษุด้วยกันทั้งสิ้น
4.6 การเจริญกายคตาสติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย
เมื่อเจริญกายคตาสติไปตามลำดับ ตั้งแต่อุคคหโกสัลละประการแรก อันได้แก่ “วจสา
คือ ให้ท่องอาการ 32 นั้นให้คล่องปาก เหมือนประหนึ่งท่องที่ศูนย์กลางกายจนขึ้นใจเป็น
“มนสา” จากนั้นภาพของอาการ 32 ข้อใดข้อหนึ่งปรากฏขึ้นเป็น “บริกรรมนิมิต” ที่
ศูนย์กลางกาย โดยอาการเป็นวัณณนิมิตหรือปฏิกูลนิมิตหรือธาตุนิมิต จนชัดเจนเป็น
“อุคคหนิมิต” แล้วจากนั้นก็กลั่นตัวใสเป็น “ปฏิภาคนิมิต” ในที่สุดใจก็จะรวมเป็นหนึ่งตกศูนย์
เข้าถึง “ดวงปฐมมรรค” ที่แท้จริงได้
จากการอธิบายนี้ มีตัวอย่างอธิบายไว้ใน พระธรรมเทศนาของพระเดชพระคุณ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เรื่อง “ติลักขณาทิคาถา” ดังนี้
“เมื่อวานนี้บวชสามเณรองค์หนึ่ง พอใจหยุดถูกส่วนเข้าเท่านั้น ไปตลอดเที่ยว ทาง
มรรคผล ทำใจให้หยุด เอาผมมาบ่อยหนึ่งที่โกนแต่เมื่อบวชเท่านั้น เขาก็จำได้ ให้น้อมเข้าไปใน
ช่องจมูกข้างขวา ไปตั้งอยู่กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่
กลางตัวเจ้านาคที่บวชเป็นเณรนั้น เห็นผมจำได้ว่าโคนนั้นไปทางตะวันออก ปลายไปทางตะวันตก
ผมมันมีคู่กลางอยู่หน่อย ถามว่ามันล้มไปทางซ้ายหรือล้มไปทางขวา ตรงกลางที่โค้งอยู่หน่อยนะ
120 DOU สมาธิ 6 ส ม ก กั ม ม ฏ ฐ า น 4 0 วิ ธี (1)