ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในภายภาคหน้าเราก็จะได้รับแต่อานิสงส์ที่ดีงาม มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ประกอบไปด้วย
โสมนัสอย่างยอดยิ่ง การคำนึงนึกถึงอย่างนี้แหละได้ชื่อว่า จาคานุสติ ต่อแต่นั้นก็เริ่มต้นภาวนาว่า
มนุสฺสตฺติ สุลทธ์ เม ยุวาห์ จาเค สทา รโต
มจฺเฉรปริฏฺฐาย
ปชาย วิคโต ตโต ฯ
ชนทั้งหลายมีมัจฉริยะ ก่อกวนกำเริบด้วยการหวงแหนอยู่ แต่เรานั้นมีความยินดี
ปลื้มใจ อยู่แต่ในการบริจาคทาน โดยปราศจากมัจฉริยะลงได้ การที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์นี้
ดีจริงหนอ
เมื่อบริจาคแล้วต้องสละให้หลุด บางคนบริจาคทานไปแล้ว ไม่พอใจที่ผู้รับไม่ใช้ของที่
ตนบริจาค หรือไม่พอใจที่ผู้รับนำของนั้นไปให้ผู้อื่นต่อ เรียกว่า สละแล้วไม่พ้น สละไม่หลุดหรือ
บางคนบริจาคทานแล้วไม่พอใจเพราะมีคนบริจาคมากกว่าตน หรือบริจาคทานที่ประณีตกว่าตน
การบริจาคในลักษณะดังกล่าวและบริจาคโดยหวังผลตอบแทน เช่น หวังโภคสมบัติ หวังสวรรค์
สมบัติ ไม่จัดเป็นจาคานุสติ เพราะเมื่อระลึกขึ้นมาก็เป็นการค้า ไม่เป็นการชำระจิต การ
บริจาคทานหรือทานบารมีเป็นปัจจัยอุปการะแก่บารมีอื่น เช่น ศีลบารมี ทานบารมีเป็นการ
ชำระจิตในเบื้องต้น การสละมีตั้งแต่สละวัตถุสิ่งของ อวัยวะ เลือดเนื้อ ชีวิต ดังพระเวสสันดร
เป็นแบบอย่าง
สำหรับบรรพชิตการบริจาคเป็นข้อปฏิบัติในสาราณียธรรม บรรพชิตรูปใดได้ประพฤติ
ปฏิบัติวัตรนี้ ย่อมทำให้มีความเคารพกัน ช่วยเหลือและสามัคคีพร้อมเพรียงกัน สาราณียธรรม
มีหลักปฏิบัติ 7 อย่างคือ 1-3 ตั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ประกอบด้วยเมตตาในเพื่อน
ภิกษุสามเณร 4 แบ่งปันลาภที่ได้มาโดยชอบธรรม 5 รักษาศีลให้บริสุทธิ์เสมอเหมือนกับ
เพื่อนภิกษุสามเณร 6 มีความเห็นเข้ากันได้กับเพื่อนภิกษุสามเณร (ทิฏฐิสามัญญตา) ถ้าบรรพชิต
ได้เจริญจาคานุสติกัมมัฏฐานควบคู่ไปด้วย จะทำให้การปฏิบัติสาราณียธรรมดำเนินไปด้วยดี
เพราะการปฏิบัติสาราณียธรรมต้องให้ทานทุกวัน ตลอดระยะเวลาถึง 12 ปี
การปฏิบัติสาราณียธรรม จะต้องเลือกสถานที่และบุคคลในหมู่คณะให้เหมาะสมกับ
ผู้ปฏิบัติ เช่น สถานที่เป็นที่ไม่มีพระภิกษุสามเณรอยู่จำนวนมาก และล้วนแต่เป็นผู้มีศีลและ
สิกขาบท ตลอดจนคันถธุระหรือวิปัสสนาธุระด้วยกันทั้งสิ้น ก่อนลงมือปฏิบัติให้ตั้งจิตอธิษฐาน
ว่า จะทำตามหลักของสาราณียธรรมที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ตลอดครบระยะเวลา 12 ปี
อธิษฐานเสร็จแล้ว แจ้งให้เพื่อนภิกษุสามเณรทั้งหลายทราบทั่วถึงกันว่า จะปฏิบัติสาราณียธรรม
บ ท ที่ 2 อ นุ ส ติ 6 DOU 55