ข้อความต้นฉบับในหน้า
ส่วนอานิสงส์ของสังฆานุสติ เช่นเดียวกับพุทธานุสติ และธัมมานุสติ
2.11 การเจริญสีลานุสติ
สีลานุสติ คือ การตามระลึกถึงศีลที่ตนรักษาไว้โดยปราศจากโทษอยู่เนือง ๆ
ศีลที่รักษานั้น จะเป็นศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 หรือ ศีล 227 ตามเพศภาวะของผู้
เจริญภาวนา โดยการระลึกถึงศีลนั้น ผู้ปฏิบัติจะต้องมีความประพฤติครบถ้วนทั้ง 5 ประการ
เสียก่อน คือ
1. จะต้องชำระศีลของตนให้พ้นจากโทษทั้ง 4 อย่าง คือ ศีลขาด ศีลทะลุ ศีลต่าง
ศีลพร้อย และตั้งตนอยู่ในศีลที่บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ไม่แปดเปื้อนด้วยมลทิน เป็นศีลที่ผู้รักษา
รักษาด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่ได้มุ่งโลกียสมบัติ ไม่ได้เป็นทาสของตัณหา
2. จะต้องมีจิตใจพ้นไปจากความเป็นทาสแห่งตัณหา กล่าวคือ ต้องเป็นการรักษาศีลที่
ไม่มีความมุ่งหวังต่อโลกียสมบัติ
3. มีการปฏิบัติ กาย วาจา ใจ ให้ตั้งอยู่ในสิกขาบทอย่างเคร่งครัด จนมิอาจที่ผู้ใดผู้หนึ่ง
จะมาจับผิด โดยอ้างวัตถุขึ้นแสดงเป็นหลักฐานได้
4. ความประพฤติด้วยกาย วาจา ของตนนั้น แม้ว่าคนพาลและผู้ที่เป็นศัตรูแก่ตน
จะไม่มีความเห็นดีเห็นชอบด้วยก็ตาม แต่วิญญูชนย่อมสรรเสริญ
5. ต้องประกอบด้วยความรู้ว่า ศีลนี้เป็นเหตุให้สมาธิเกิดขึ้นได้
เมื่อความประพฤติปฏิบัติของตนถูกต้องตามหลักทั้ง 5 ประการนี้แล้ว ทำการระลึก
ไปในศีล เป็นต้นว่า
ภุชิสส์ อปรามส์
อโห เม วต สีล
อขณฑ์ อนิทท์ หเว
อสพล อกมมาส์
ปสฏฐ์ สพฺพวิญญูหิ
สมาธิสํวตฺตนิก๋
ศีลของเรานี้บริสุทธิ์ดี น่าปลื้มใจจริงหนอ ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย โดยแน่นอน
ศีลของเรานี้บริสุทธิ์ ทำให้เราพ้นไปจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของตัณหา ศีลของเรานี้มิอาจ
ที่จะมีผู้ใดมากล่าวหาได้ ศีลของเรานี้คนอันธพาลและผู้ที่เป็นศัตรูกับเราจะไม่มีการเห็นดีด้วย
บ ท ที่ 2 อ นุ ส ติ 6 DOU 51