ข้อความต้นฉบับในหน้า
3.4.1 วธกปัจจุปฏฐานโต ระลึกโดยปรากฏเหมือนเพชฌฆาต
ผู้ปฏิบัติพึงระลึกว่า เพชฌฆาตคิดว่าจะตัดศีรษะคนผู้นี้ ถือดาบจ่อที่คอ ยืนประชิดตัว
อยู่ฉันใด แม้ความตายก็ปรากฏฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุใด เพราะความตายมาพร้อมกับ
ความเกิด และเพราะความตายคร่าเอาชีวิตไปอุปมาเหมือนดอกเห็ด ย่อมพาเอาฝุ่นติดหัว
ขึ้นมาด้วยฉันใด สัตว์ทั้งหลายก็พาเอาความแก่และความตายเกิดมาด้วยฉันนั้น
แท้ที่จริงแล้วสัตว์ทั้งหลายไ
สัตว์ทั้งหลายได้ชื่อว่าแก่ตั้งแต่เกิด คือ เริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ก็เริ่ม
แก่ตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็แตกดับไปพร้อมกับสัมปยุตขันธ์ (ขันธ์ที่เกิดร่วมด้วย) ดังศิลาตกจาก
ยอดเขาแตกไปฉะนั้น แม้แต่มรณะที่ท่านประสงค์เอาในมรณสตินี้ ก็จัดว่ามาพร้อมกับความเกิด
เพราะความที่สัตว์ผู้เกิดมาแล้ว ต้องตายเป็นแน่ เพราะเหตุนั้น สัตว์นี้นับตั้งแต่เวลาที่เกิดแล้วก็
บ่ายหน้าสู่ความตายไปไม่กลับเลยแม้แต่น้อย เปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ที่ขึ้นแล้ว ย่อมบ่ายหน้า
สู่ความตกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้โคจรย้อนกลับแม้สักหน่อยหนึ่ง หรือเหมือนลำธารที่ไหลลง
จากภูเขามีกระแสเชี่ยวพัดพาเอาสิ่งที่มันจะพาไปได้ให้ไหลรุดหน้าไปท่าเดียวไม่ได้ไหลย้อนกลับ
แม้สักนิดฉะนั้น เพราะฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
“สัตว์อยู่ในครรภ์เพียงคืนเดียวแม้เป็นคืนแรก ย่อมบ่ายหน้าไปสู่
ความตายเหมือนเมฆฝนตั้งขึ้นแล้ว ก็ย่อมเคลื่อนไปเรื่อยไป ไม่หวนกลับ”
ก็เมื่อสัตว์นั้นบ่ายหน้าไปอยู่อย่างนั้น ความตายย่อมใกล้เข้ามาทุกที ดุจความแห้งไป
แห่งน้ำในลำน้ำน้อยทั้งหลายที่ถูกแดดแผดเผาในฤดูร้อน และเหมือนการหล่นในเวลาเช้าของ
ผลไม้ที่สุกแล้วอันเนื่องมาจากมีขั้วอันน้ำซึมซาบแล้ว เหมือนความแตกแห่งภาชนะดินทั้งหลาย
ที่ถูกทุบด้วยค้อนและเหมือนความเหือดหายไปแห่งหยาดน้ำค้างที่ต้องแสงของดวงอาทิตย์ฉะนั้น
เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสและเหล่าพระอรหันต์ทั้งหลายจึงกล่าวไว้ว่า
“วันและคืนย่อมล่วงไป ๆ ชีวิตย่อมดับไป อายุของสัตว์ทั้งหลายย่อม
สิ้นไป เหมือนน้ำในแม่น้ำน้อย”
“ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ไม่มีเครื่องหมาย ใครๆ รู้ไม่ได้ทั้งลำบาก
1
ขุททกนิกาย เถรคาถา, มก. เล่มที่ 51 หน้า 61
68 DOU สมาธิ 6 ส ม ก กั ม ม ฏ ฐ า น 4 0 วิ ธี (1)