ความตายและการพิจารณามรณานุสติ MD 306 สมาธิ 6  หน้า 75
หน้าที่ 75 / 156

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจความตายในหลายมิติ เริ่มจากสมมติมรณะ เช่น นาฬิกาตาย รถตาย แล้วไปถึงชีวิตินทรียุปัจเฉทมรณะที่เป็นจริงสำหรับทุกคน การพิจารณาความตายต้องมีกระบวนการที่ทำให้เราเข้าใจถึงธรรมชาติของชีวิตและการดับสูญ ความตายแบ่งได้สองประเภทหลักคือ กาลมรณะ และ อกาลมรณะ กาลมรณะเกี่ยวข้องกับการตายที่เกิดขึ้นตามอายุ ตามสิ่งที่เป็นไปตามเวลาซึ่งจะสิ้นบุญหรือสิ้นอายุ ขณะที่อกาลมรณะกล่าวถึงความตายที่เกิดจากเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุ ซึ่งไม่มีการกำหนดเวลาก่อนล่วงหน้า นอกจากนี้ ยังให้ตัวอย่างเปรียบเทียบการตายกับ ลูกธนู และเสียงภาชนะทองเหลืองที่เลือกใช้เป็นเครื่องมือในการอธิบายการตายว่าต้องไปจนถึงที่สุดเมื่อไม่มีอุปสรรค.

หัวข้อประเด็น

-มรณานุสติ
-ความตายประเภทต่างๆ
-ชีวิตินทรียุปัจเฉทมรณะ
-กาลมรณะ
-อกาลมรณะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3. สมมติมรณะ คือ ความตายที่ชาวโลกสมมติกัน เช่น นาฬิกาตาย รถตาย ต้นไม้ตาย เหล็กตาย เป็นต้น 4. ชีวิตินทรียุปัจเฉทมรณะ คือ ความตายในภพหนึ่ง ๆ ชาติหนึ่ง ๆ เมื่อชีวิตรูปนาม ดับสิ้นลงไป การเจริญมรณานุสติ ไม่สามารถทำได้กับสมุทเฉทมรณะ ขณิกมรณะ และสมมติมรณะ เพราะสมุทเฉทมรณะมีได้น้อย มีแต่เฉพาะพระอรหันต์เท่านั้น เราจึงไม่สามารถเห็นได้ทั่วไป ส่วนขณิกมรณะ (การเกิดดับเป็นไปทุกขณะ) เราไม่สามารถเห็นความจริงของการเกิดดับนั้น ส่วนสมมติมรณะนั้น ก็ไม่ทำให้เราเกิดความสังเวชใจ การพิจารณาความตายจึงต้องพิจารณา ชีวิตินทรียุปัจเฉทมรณะ อันเป็นความตายที่เกิดกับทุกคน เห็นได้ชัด มีการตายเกิดขึ้นทุกวัน สำหรับความตายในภพชาติหนึ่ง หรือชีวิตินทริยุปัจเฉทมรณะ สามารถแบ่งตามกาลได้ 2 อย่าง คือ กาลมรณะ และอกาลมรณะ 1. กาลมรณะ ได้แก่ ความตายไปตามกาลเวลา คือ ตายเพราะสิ้นบุญ สิ้นอายุ หรือ เพราะสิ้นทั้งสองอย่าง ความตายเพราะสิ้นบุญ คือ แม้จะมีปัจจัยที่จะทำให้มีอายุอยู่ต่อไปได้ แต่ก็มีวิบาก กรรมเก่ามาตัดรอนทำให้ต้องตาย ความตายเพราะสิ้นอายุ คือ มีชีวิตอยู่จนหมดช่วงอายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ในยุคนั้นๆ เช่น ในปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ย คือ 75 ปี ก็มีอายุยืนไปจนหมดอายุขัยและตายในที่สุด เพราะ ความไม่มีสมบัติ เช่น คติ กาล และอาหาร เป็นต้น ผู้ที่มีชีวิตอยู่นานจึงตาย เรียกว่าตายไปตามกาลเวลาหรือตายในเวลาควรตาย เปรียบเหมือนอสรพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรง ได้กัดบุคคลคนใดคนหนึ่งให้ถึงซึ่งความตาย ไม่มียา แก้พิษ พิษของงูนั้น เรียกว่าถึงที่สุดฉันใด ผู้ที่มีอายุอยู่นาน สิ้นอายุแล้วก็ตายไปก็ฉันนั้น ฯ อีกอย่างหนึ่ง นายขมังธนูยิงลูกธนูออกไป ลูกธนูนั้นจะต้องไปจนสุดกำลัง ในเมื่อ ไม่มีสิ่งใดกีดขวาง ฉันใด ผู้ที่มีชีวิตอยู่นาน ก็ตายด้วยสิ้นอายุฉันนั้น ลูกธนูที่มีสิ่งกีดขวางก็ไป ไม่ถึงที่สุดฉันใด พวกมีสิ่งขัดขวาง ก็ตายในเวลายังไม่ถึงที่สุดแห่งอายุฉันนั้น อีกอย่างหนึ่ง เสียงภาชนะทองเหลืองที่มีผู้ตี จะต้องดังไปจนสุดเสียง ในเมื่อไม่มีสิ่ง ขัดขวาง ฉันใด บุคคลก็ต้องตายในเวลาแก่ เวลาสิ้นอายุ ในเมื่อไม่มีอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉันนับ บ ท ที่ 3 ม ร ณ า นุ สติ DOU 65
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More