อานาปานสติและอานิสงส์ในการเจริญสมาธิ MD 306 สมาธิ 6  หน้า 149
หน้าที่ 149 / 156

สรุปเนื้อหา

ในข้อความนี้กล่าวถึงประโยชน์ของการปฏิบัติอานาปานสติ ที่ช่วยให้เกิดรูปฌานและเป็นบาทแห่งมรรคผล โดยเชื่อมโยงกับการทำสติปัฏฐาน 4 ดำเนินไปสู่โพชฌงค์ 7 และวิชชา รวมถึงผลการป้องกันวิตกและการรับรู้วันตาย โดยความรู้ด้านอายุสังขารที่ได้จากการเจริญอานาปานสติจะทำให้ผู้ปฏิบัติสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีสติตลอดจนถึงการเผชิญหน้ากับการตายอย่างมีสติ

หัวข้อประเด็น

-อานาปานสติ
-รูปฌาน
-สติปัฏฐาน 4
-โพชฌงค์ 7
-อายุสังขาร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หากปฏิบัติตามนี้ ปฏิภาคนิมิตก็จะไม่เสื่อมหายไปและได้รูปฌานตามลำดับ แต่การ จะได้อัปปนาฌาน พึงทราบด้วยว่าลมเข้าลมออกและนิมิต เป็นอารมณ์ของจิตคนละดวง คนละ อัน ไม่ใช่อารมณ์ของจิตดวงเดียวกัน 5.6 อานิสงส์ของอานาปานสติ 1. ทำให้ได้รูปฌาน 2. ทำให้เป็นบาทของมรรคผล นั่นก็คือ อานาปานสติเป็นสาเหตุแห่งการทำให้ วิชชาและวิมุตติเต็มบริบูรณ์ ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ถ้าบุคคลปฏิบัติอานาปานสติ เธอชื่อว่าทำสติปัฏฐาน 4 ให้บริบูรณ์ ถ้าบุคคลปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 เธอชื่อว่าทำโพชฌงค์ 7 ให้บริบูรณ์ ถ้าบุคคลปฏิบัติโพชฌงค์ 7 เธอชื่อว่าทำวิมุตติและวิชชาให้บริบูรณ์ 3. ทำให้ป้องกันไม่ให้เกิดวิตก พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสอานิสงส์ของอานาปานสติไว้ว่า อานาปานสติสมาธิบุคคลทำให้มากเจริญให้มากแล้ว เป็นธรรมที่ละเอียดและประณีต เป็น ธรรมสามารถตัดซึ่งวิตก เช่น กามวิตก เป็นต้น อานาปานสติสมาธิ ย่อมทำความฟุ้งซ่านให้ หมดไปจากจิต ที่เกิดจากอำนาจของวิตกทั้งหลายอันทำอันตรายต่อสมาธิ แล้วทำให้จิตมุ่ง ต่ออารมณ์คือลมหายใจเข้าออกเท่านั้น เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า พึงเจริญ อานาปาสติเพื่อเข้าไปตัดวิตก 4. ผู้ที่สำเร็จอรหัตผลโดยใช้อานาปานสติเป็นบาท ย่อมสามารถกำหนดรู้อายุสังขาร ของตนว่าจะอยู่ได้นานเท่าใด และสามารถรู้เวลาที่จะปรินิพพานตามธรรมดาผู้ที่เจริญกัมมัฏฐาน อย่างอื่นนอกจากอานาปานสติ บางท่านก็รู้วันตาย บางท่านก็ไม่รู้ แต่ผู้ที่เจริญอานาปานสติ จนกระทั่ง บรรลุพระอรหัตผล ย่อมสามารถกำหนดรู้วันละสังขารได้ ย่อมรู้ว่า เราจะมีอายุอยู่ ต่อไปได้เพียงเท่านี้ ไม่เกินไปกว่านี้ จึงทำกิจทุกอย่าง มีการชำระร่างกายและการนุ่งห่ม เป็นต้น ตามที่เคยปฏิบัติมา แล้วจึงหลับตา โดยมีเรื่องเล่าไว้ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค เป็นเรื่องพระเถระ สองพี่น้องผู้อยู่ในจิตตลดาบรรพตวิหาร เรื่องก็มีอยู่ว่า 1 ความตรึก, การคิด มีอยู่ 3 อย่าง คือ กามวิตก (คิดในเรื่องกาม) พยาบาทวิตก (คิดในเรื่องพยาบาท) วิหิงสาวิตก (คิดในเรื่องเบียดเบียน) * พระ ดร. พี วชิรญาณมหาเถระ, สมาธิในพระพุทธศาสนา, โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หน้า 205 บทที่ 5 อ าน า ป า น ส ติ และ อุปสมานุสติ DOU 139
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More