ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๖๐
นาคแปลงมาบวช
ในสมัยพุทธกาล นาคตัวหนึ่งถูกบุญในตัวกระตุ้นเตือนจิตสํานึก
ให้อึดอัดและระอาในความเป็นนาคของตน ต้องการเกิดเป็นมนุษย์โดยเร็ว
พลัน จะได้สั่งสมบุญอย่างเต็มที่ จึงแปลงร่างมาบวช ครั้นบวชแล้วได้อยู่กับ
พระภิกษุรูปหนึ่งในวิหารหลังหนึ่ง
ก่อนอรุณรุ่ง พระภิกษุรูปนั้นได้ออกจากวิหารไปเดินจงกรม ฝ่าย
นาคเมื่อเห็นดังนั้นก็วางใจจำวัด (หลับ) พอพระภิกษุรูปนั้นกลับมาเปิดประตู
ได้เห็นวิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู เป็นขนดยื่นไปทางหน้าต่าง ก็ตกใจร้อง
เอะอะขึ้น จนความทราบถึงพระบรมศาสดา พระองค์จึงตรัสสอนนาคว่า
“เจ้าเป็นนาคมีความไม่งอกงามในธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา ไป
เถิดเจ้านาค จงไปรักษาอุโบสถในวันที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่
๘ แห่งปักษ์
ด้วยวิธีนี้เจ้าจักพ้นจากกำเนิดนาค และจักกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์โดย
เร็วพลัน”
ลำาดับนั้นพระพุทธองค์ทรงรับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า “ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เหตุแห่งความปรากฏตามสภาพของนาค มี ๒ ประการ คือ
เวลาเสพเมถุนกับนางนาคผู้มีชาติเสมอกัน ๑ เวลาวางใจนอนหลับ
นาคะแนวรบที่ ๑
ท้าวสักกะ จอมเทพเป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีศัตรูประจำ
คือเหล่าเทพอสูร
เมื่อมีศึกสงครามกับอสูร ท้าวสักกะจะจัดกองทัพเป็น ๕ ด่าน
เมื่ออสูรยกทัพมา กว่าจะถึงตัวพระอินทร์ ต้องผ่านด่านอย่างน้อย ๕ ด่าน
โดยมีพวกนาคเป็นแนวรบที่ ๑ นับว่าพวกนาคเป็นขุนศึกแนวหน้าที่เดียว
ด่านทั้ง ๕ นี้คือ ๑. พวกนาค ๒. พวกครุฑ ต. พวกกุมภัณฑ์
๔. พวกยักษ์ ๕. ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔
จากยอดดอย