อนุสาสนีปาฏิหาริย์และคำสอนของพระพุทธเจ้า : หน้า 72/281

๗๔ ๒. อาเทสนาปาฏิหาริย์ (ดักใจเป็นอัศจรรย์) ได้แก่ การอ่าน ความคิด และอุปนิสัยผู้อื่นได้ ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์(คำสอนเป็นอัศจรรย์) ได้แก่ คำสอนที่ ถูกต้อง เที่ยงตรง แจ่มแจ้ง ทนต่อกาลเวลา ทนต่อการพิสูจน์ พระพุทธองค์ได้ตรัสสรรเสริญ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ว่าเป็นเลิศ กว่าปาฏิหาริย์ใด ๆ เพราะ “อมตธรรม” เท่านั้น จึงจะทำให้คนเรารู้ธรรม ปฏิบัติธรรม เห็นธรรม และเข้าถึงธรรมในที่สุด อันเป็นเหตุให้สามารถ หลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ เอกกวี คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากจะเป็นคำสอนที่ถูกต้อง เที่ยงตรง แจ่มแจ้ง ทนต่อกาลเวลา ทนต่อการพิสูจน์แล้ว พระผู้มีพระภาค เจ้ายังทรงปรับให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ เวลา สถานที่ และบุคคลอีกด้วย เช่นเมื่อมีใครทูลถามปัญหาพระพุทธเจ้าด้วยคำถามที่เป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน พระองค์ก็จะทรงตอบปัญหาด้วย โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ประเภทนั้นๆ ด้วย ดังเรื่องราวใน มาฆสูตร (สังยุตตนิกาย สคาถวรรค) ความว่า ในสมัยพุทธกาล ณ เชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถีเมื่อสิ้นปฐมยาม แล้ว มาฆเทวบุตรผู้มีวรรณะอันงามยิ่ง ยังพระวิหารเชตวันให้สว่างด้วย รัศมีแห่งตน และได้ทูลถามปัญหาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยปัฐยาวัตรฉันท์ เป็นภาษาบาลีว่า กึสุ ฆตวา สุข เสติ กึสุ ฆตฺวา น โสจติ กิสสสส เอกธมฺมสฺส วร์ โรเจริ โคตม บุคคลฆ่าอะไรจึงจะอยู่เป็นสุข ฆ่าอะไรจึงจะไม่เศร้าโศก ข้าแต่ พระโคดม พระองค์ทรงชอบการฆ่าธรรมอะไร ซึ่งเป็นธรรมอันเอก เมื่อเทพบุตรจอมเทพแห่งดาวดึงส์ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า จากยอดดอย