ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๔๘
น
“การปฏิบัติธรรมก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ช่วงเวลานับจากห้อง
ปฏิบัติธรรมได้เดินชมธรรมชาติรอบสวนบัว ได้พบแต่ความรื่นรมย์ เพราะ
พบแต่ความงดงามของต้นไม้ ทั้งไม้ดอกไม้ใบ สีสันสดสวยงดงามนานาพันธุ์
มีหลากสีต่างชนิดต่างกลิ่น จัดกลุ่มไว้แปลกตาหลากหลาย เดินชมได้ทั้ง
เช้า-สาย-บ่าย-เย็น ได้ทุกวันไม่รู้จักเบื่อ สร้างอารมณ์สุนทรีให้มีความสุข
ให้พบความสบายได้ทุกครั้งที่ได้เดินผ่าน แถมยังพบภาพความประทับใจ
ให้จดจำนำกลับมากำหนดดวงนิมิตได้หลากหลาย เช่น พบหยดน้ำบนใบ
บัวต่างขนาดมากมาย ต้องแสงพระอาทิตย์สะท้อนใสสว่างยิ่งนัก งามยิ่งนัก
จดจําได้เด่นชัดเก็บไว้ที่ศูนย์กลางกาย น้ำค้างตกอยู่บนยอดสนต้นเล็ก ๆ
เกาะติดอยู่ตลอดทั้งต้น พระอาทิตย์ทอแสงกระทบดั่งหยาดเพชรเม็ดงาม
เต็มทั้งต้นสน น้ำตกกระทบก้อนหินเป็นฟองกลมไหลพรูลงเบื้องล่างทั้งกลม
ทั้งใส สว่าง นับจำนวนไม่ถ้วน ดั่งดวงแก้วนับหมื่นนับแสนดวง ฟอง
อากาศผุดจากใต้ าดั่งดวงธรรมผุดจากศูนย์กลางกาย ทั้งหมด วนเวียน
อยู่ในความทรงจํา ทําให้การปฏิบัติธรรมในวันศุกร์ดีขึ้น ถูกใจตัวเอง”
ดังนั้นการหมั่นประคองใจที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา จึงเป็นสิ่ง
สำคัญที่จะทำให้เราเข้าถึงพระธรรมกาย เพราะการปฏิบัติธรรมอย่าง
สม่ำเสมอและต่อเนื่องเป็นหัวใจของการเข้าถึงสรณะที่แท้จริง
หนึ่งเสี้ยวแห่งใจ
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ของการปฏิบัติธรรม หลายคนต่างได้ความ
ประทับใจหลากแง่หลายมุม อาทิ
“วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ประมาณบ่าย ๒ โมงครึ่งได้
นั่งสมาธิอยู่ ทำใจสงบ จิตตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย มีแสงสว่างข้างหน้า มี
แสงสว่างมากผ่านหน้าเข้ามาในท้องของเรา ครั้งแรกตกใจ ทำไมท้องเรา
สว่าง แสงก็หายไป นั่งหลับตาใหม่ก็มีแสงเข้ามาอีก สว่างที่ท้องรู้สึกโล่งไป
หมดทั้งตัว นั่งทุกครั้งก็เริ่มเข้ากลางกายได้ไปเห็นลูกแก้วมีแสงสว่าง
จากยอดดอย