ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปัจจุบันธรรม
ในพุทธพจน์เบื้องต้นตอนหนึ่งกล่าวถึง “ผู้ใดเห็นแจ้งในธรรมที่เกิด
ขึ้นจำเพาะหน้าในที่นั้นๆ ในกาลนั้น ๆ ไม่ง่อนแง่นไม่คลอนแคลน...” หมายถึง
เมื่อไม่หวนให้ถึงอดีต ไม่ฝันเฟื่องไปในอนาคตแล้วก็ให้เราอยู่กับปัจจุบัน
ปัจจุบันมีหน้าที่รับผิดชอบอะไรก็ให้รีบทำเสีย เป็นเด็กก็มีหน้าที่เรียน อย่า
รักเที่ยวเตร่ เป็นผู้ใหญ่ก็ขยันหมั่นเพียร จัดแจงการงาน จัดการครอบครัว
ให้เรียบร้อย ไม่เหลาะแหละเหลวไหล จึงจะได้ชื่อว่า อยู่กับปัจจุบันธรรม
ปัจจุบันธรรมแง่ปฏิบัติ
ในทางปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา ปัจจุบันธรรม หมายถึง ณ
ปัจจุบันนั้น ใจได้หยุดนิ่งอยู่ในกลางดวงธรรมภายใน ดังพระธรรมเทศนา
ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่แสดงไว้เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
ตอนหนึ่งว่า
“....ท่านยืนยันที่เดียวว่า บุคคโล อันว่าบุคคลใด เห็นแจ้งชัดซึ่ง
ธรรมอันประกอบเฉพาะหน้า ธรรมอะไรซึ่งปรากฏเฉพาะหน้านั่นแหละ
เป็นปัจจุบันธรรม เช่น คันถธุระ กำลังท่องกำลังบ่นอยู่ที่เดียว คาปากคา
ใจทีเดียว นั่นเป็นปัจจุบันธรรม
ถ้าว่าผู้ปฏิบัติในสมถวิปัสสนา เห็นแปลกประหลาดเป็นนิจบังเกิดขึ้น
ปรากฏเห็นทีเดียว เห็นแจ่มอยู่กลางตัวเป็นดวงใสเท่าดวงจันทร์ดวง
อาทิตย์นั่นแหละ ใสบริสุทธิ์เหมือนยังกับกระจกคันฉ่องส่องเงาหน้า กลม
รอบตัว เห็นขนาดนั้นแหละเป็นปัจจุบันธรรมแท้ๆ ดวงนั้นแหละเรียกว่า
ดวงธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน เห็นปรากฏอยู่กลางกายมนุษย์นั่น
เมื่อเห็นเข้ารูปนั้นแล้วละก็ ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลนละ ธรรมดวง
นั้นเห็นแจ่มแจ้งชัดทีเดียว ผู้ที่เห็นนั้นก็มั่นคงต่อธรรมนั้นทีเดียว
ป ป ม
ต
เมื่อเห็นดวงธรรมนั้นแล้ว ความเพียรเผากิเลส
ควรทำเสียในวันนี้ ไม่ถอนใจออกจากธรรมดวงนั้น ไม่ให้หลุดจากธรรม
๑๙๑
จากยอดดอย