ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๐๐
ควรนั่งสมาธิเสียก่อน” แล้วเขาก็นั่งสมาธิปรารภความเพียรเพื่อเข้าถึง
เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้
ธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง
ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
๓. เมื่อจะต้องเดินทาง เขาก็มีความคิดว่า “เราจะต้องเดินทาง
เมื่อเราเดินทาง ใจเราจะเผลอจากศูนย์กลางกายได้ง่าย อย่ากระนั้นเลย
เราควรนั่งสมาธิเสียก่อน”
แล้วเขาก็นั่งสมาธิปรารภความเพียรเพื่อเข้าถึง
ธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้
ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
๔. เมื่อเดินทางแล้ว เขาก็มีความคิดว่า “เราได้เดินทางแล้ว เมื่อ
เราเดินทางอยู่ ใจเราได้เผลอจากศูนย์กลางกายบ่อยมาก อย่ากระนั้นเลย
เราควรนั่งสมาธิเสียก่อน” แล้วเขาก็นั่งสมาธิปรารภความเพียรเพื่อเข้าถึง
ธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้
ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
๕. เมื่อรับประทานอาหารน้อย เขาก็มีความคิดว่า “เราทาน
อาหารน้อย กายของเรานั้นพอเหมาะแก่การนั่งสมาธิ อย่ากระนั้นเลย
เราควรนั่งสมาธิเสียก่อน” แล้วเขาก็นั่งสมาธิปรารภความเพียรเพื่อเข้าถึง
ธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้
ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
5. เมื่อรับประทานอาหารอิ่ม เขาก็มีความคิดว่า “เราทานอาหาร
อิ่มแล้ว เราควรนำเรี่ยวแรงที่ได้จากอาหารนั้นมาประกอบความดีอย่าง
เต็มที่ อย่ากระนั้นเลย เราควรนั่งสมาธิเสียก่อน” แล้วเขาก็นั่งสมาธิ
ปรารภความเพียรเพื่อเข้าถึงธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อศึกษาวิชชา
ธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
๗. เมื่อเกิดป่วยไข้ เขาก็มีความคิดว่า “เราป่วย เราไม่สบาย
เราอาจป่วยมากกว่านี้ก็ได้ อย่ากระนั้นเลย เราควรนั่งสมาธิ” แล้วเขาก็
นั่งสมาธิ ปรารภความเพียร เพื่อเข้าถึงธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อศึกษา
วิชชาธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
จากยอดดอย