ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๙๙
ธรรมที่ยังไปไม่ถึง
5. เมื่อรับประทานอาหารอิ่มเขาก็มีความคิดว่า “เราทานอาหาร
อิ่มแล้ว จะทำอะไรตอนนี้คงไม่ควร อย่ากระนั้นเลย เรานอนพักก่อนดีกว่า”
แล้วเขาก็นอน ไม่ปรารภความเพียรเพื่อเข้าถึงธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อ
ศึกษาวิชชาธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
๗. เมื่อเกิดป่วยไข้ เขาก็มีความคิดว่า “เราป่วย เราไม่สบาย
เราควรจะเก็บแรงไว้สู้กับโรคภัย อย่ากระนั้นเลย เรานอนพักก่อนดีกว่า”
แล้วเขาก็นอน ไม่ปรารภความเพียรเพื่อเข้าถึงธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง
เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยัง
ไปไม่ถึง
๔. เมื่อหายจากป่วยไข้ใหม่ ๆ เขาก็มีความคิดว่า “เราหายจาก
ป่วยแล้วแต่ยังหายได้ไม่นาน กายของเรายังอ่อนเพลียไม่ควรแก่การงาน
อย่ากระนั้นเลย เรานอนพักก่อนดีกว่า” แล้วเขาก็นอน ไม่ปรารภความ
เพียรเพื่อเข้าถึงธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายที่ยังไม่
ศึกษา เพื่อไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
คิดอย่างนี้ นั่งอย่างเดียว
มีคนมากมายทีเดียว ที่รู้ซึ้งถึงคุณค่าของสมาธิ แม้ได้พบกับ
เหตุการณ์ต่าง ๆ เขาก็นำเหตุการณ์นั้นๆ มาสอนตัวเอง แล้วปรารภความ
เพียรนั่งสมาธิร่ำไป เช่น
๑. เมื่อจะต้องทำงานเขาก็มีความคิดว่า “เราจะต้องทำงานเมื่อ
เราทำงานใจเราจะเผลอจากศูนย์กลางกายได้ง่าย อย่ากระนั้นเลย เรา
ควรนั่งสมาธิเสียก่อน” แล้วเขาก็นั่งสมาธิปรารภความเพียรเพื่อเข้าถึง
ธรรมกายที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายที่ยังไม่ศึกษา เพื่อไปให้
ถึงที่สุดแห่งธรรมที่ยังไปไม่ถึง
๒. เมื่อทำงานแล้ว เขาก็มีความคิดว่า “เราได้ทำงานแล้ว เมื่อ
เราทำงานใจเราได้เผลอจากศูนย์กลางกายบ่อยมาก อย่ากระนั้นเลย เรา
จากยอดดอย