ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๖๙
แต่ก็ไม่ลืมจรดใจที่ศูนย์กลางกายเสมอ “ไก่ไม่ลืมรังเราไม่ลืมศูนย์กลางกาย"
ธรรมชาตินกเงือก ๒
๑.
ธรรมดานางนกเงือก ย่อมให้พ่อนกอยู่เลี้ยงลูกในโพรงด้วย
ความหึงฉันใด นักปฏิบัติธรรม เมื่อกิเลสจะเข้ามาใกล้ จึงใส่กิเลสลง
ไปในโพรงคือศีลสังวร แล้วอบรมกายคตาสติด้วยมโนทวารฉันนั้น คือ
นักปฏิบัติธรรมควรเป็นผู้ฟักใจไว้ในโพรง คือ ศูนย์กลางกาย ด้วยจิตแน่วแน่
แล้วความบริสุทธิ์ของใจ ความผ่องใสของใจ ก็จะทวีเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
๒. ธรรมดานางนกเงือก ในเวลากลางวันย่อมไปเที่ยวหากินใน
ป่า ในเวลาเย็นย่อมบินมาสู่ฝูงของตน เพื่อรักษาตัวไว้ฉันใด นัก
ปฏิบัติธรรมก็ควรหาที่สงัดโดยลำพังผู้เดียว เพื่อให้หลุดพ้นจากสังโยชน์
เมื่อหมดความยินดีในที่สงัดนั้นแล้วก็ควรกลับมาสู่หมู่คณะ
เพื่อดับคำ
ครหาและภัยทั้งปวงฉันนั้น คือนักปฏิบัติธรรมควรเปิดโอกาสให้ตนเองได้
พบความสงัดด้วยการนั่งสมาธิมากๆ บ้าง พร้อม ๆ กับการเปิดโอกาสให้
ได้พบหมู่คณะบ้าง เพื่อความผาสุกในระยะยาวต่อไป
ธรรมชาติไฟ ๕
G).
ธรรมดาไฟ ย่อมเผาเชื้อเพลิงฉันใด นักปฏิบัติธรรมย่อมหมั่น
เผาเชื้อเพลิง คือกิเลสฉันนั้น คือนักปฏิบัติธรรมย่อมรู้ทั่วถึงอันตรายของ
กิเลส ที่แผดเผาเราตลอดเวลา และสุดยอดของการขจัดกิเลสอาสวะคือ
การนั่งสมาธินั่นเอง
๒. ธรรมดาไฟ ย่อมไม่มีความเมตตาเอ็นดูต่อเชื้อเพลิงทั้งหลาย
ฉันใด นักปฏิบัติธรรมย่อมไม่มีความเมตตาเอ็นดูต่อกิเลสทั้งปวงฉันนั้น
คือนักปฏิบัติธรรมย่อมรังเกียจกิเลส ประดุจรังเกียจยาพิษ หรือสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ
๓. ธรรมดาไฟ ย่อมมีความร้อนขจัดความเย็นฉันใด
นักปฏิบัติธรรมต้องมีความเพียรขจัดกิเลสฉันนั้น คือนักปฏิบัติธรรมทราบ
จากยอดดอย