ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๙๒
ดวงนั้น ติดอยู่กับธรรมดวงนั้นเรื่อย นี้เรียกว่า ป ป ม
ต
โก ปัญญา มรณ์ สุเว ใครเล่าจะพึงรู้ ความตายจะมีในวันพรุ่งนี้
เดี๋ยวนี้ยังไม่ตายล่ะ พรุ่งนี้ข้าถึงจะตาย วันนี้ยังไม่ตายแน่ รู้จริงอย่างนี้หรือ
ถ้ารู้จริงอย่างนี้ก็ปล่อยใจให้หลุดจากธรรมดวงนั้นได้ แต่นี่ไม่รู้จริงเช่นนั้น
คาดคะเนเอาใจหลุดจากธรรมดวงนั้นไม่ได้ ต้องจดจำไว้ จะตายไปเสีย
เดี๋ยวนี้ก็ไม่รู้ อย่างนี้ต้องจรดกับธรรมดวงนั้นอย่าให้หาย รักษาธรรมดวง
นั้นหนักเข้า หนักเข้าๆๆ ไม่ปล่อยกันละ ไม่วางกันละ ก็รู้ทีเดียว
พอเกียจคร้านจะเลิกเสียบ้าง ก็เอาเรื่องขู่เข้ามาอีก น หิ โน
สงฺครนเตน มหาเสเนน มจฺจนา ว่าความต่อสู้ด้วยพญามัจจุราช เราจะ
ปล่อยธรรมไม่ได้ จะต้องยึดธรรมทีเดียว ถ้าปล่อย พญามัจจุราชมันจะ
สังหารเสียไม่วางธุระ เมื่อไม่วางธุระละก็ นักปราชญ์ท่านยืนยันว่า ผู้มีใจ
สงบระงับย่อมสรรเสริญบุคคลผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่
ใจติดอยู่กับดวงธรรมนั้นเรื่อยไม่ให้หลุดไป ไม่ให้หายไป ติดอยู่
เรื่อยทีเดียว อยู่กับธรรมนั้น ผู้มีใจติดอยู่กับดวงธรรมนั้น ก็เพียรเผากิเลส
อยู่ร่ำไป ไม่ปล่อยทั้งกลางวันกลางคืน ไม่เกียจคร้านเลย อย่างนี้แหละ เรียกว่า
เป็นผู้มีราตรีเดียวเจริญ เป็นอยู่สักวินาทีเดียวก็ช่างเถอะ เป็นอยู่สัก ๒
ชั่วโมงก็ช่างเถอะ นี่แหละประเสริฐนัก ประเสริฐกว่าคนเป็นอยู่หลายร้อยปี
แต่ไม่มีใจติดอยู่กับดวงธรรม
ให้ฉลาดอย่างนี้ ให้มีธรรมปัจจุบันอยู่ร่ำไป จะไปไหนก็ไปเถอะ
เดินก็ได้ นั่งก็ได้ ยืนก็ได้ ทำการงานก็ได้ แต่ว่าให้ใจไปติดกับธรรม .....”
ขยะใจ
ความฟุ้งไปในอดีตและอนาคตเป็นขยะใจที่ต้องกำจัด ขยะบ้าน
เป็นมลภาวะไม่เจริญหูเจริญตาฉันใด ขยะใจก็รกใจ เป็นมลภาวะทาง
ใจฉันนั้น เราจึงต้องกำจัดออกไปโดยด่วน โดยการนั่งสมาธิทุกวัน ให้
เข้าถึงดวงธรรม ให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ แม้ขณะที่ยังเข้าไม่ถึงแต่
จากยอดดอย