ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๑๒
“เป็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า”
“เพราะอะไรล่ะ”
พระอุกกัณฐิตะได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
เพราะข้าพระองค์ใคร่จะพ้นจากทุกข์จึงได้บวช พระอาจารย์ของข้าพระองค์
ก็กล่าวสอนอภิธรรมกถา พระอุปัชฌาย์ก็กล่าวสอนวินัยกถา ข้าพระองค์
รู้สึกอึดอัดมาก ทำอะไรก็รู้สึกว่าไม่ได้ทั้งนั้น จึงคิดว่า ถ้าเป็นฆราวาสก็อาจ
พ้นทุกข์ได้ ไปเป็นฆราวาสจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรักษาศีล รักษานั่น
รักษานี่ ให้มันมากมาย ข้าพระองค์คิดอย่างนี้พระเจ้าข้า”
0
“อุกกัณฐิตะ เธอจะรักษาสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียวได้ไหม ถ้า
เธอรักษาสิ่งนี้ได้สิ่งเดียว สิ่งอื่นเธอไม่ต้องรักษาเลยก็ได้” พระสุรเสียงอัน
เมตตาของพระพุทธองค์ ได้ตรัสแก่ภิกษุผู้ใคร่ลาสิกขารูปนั้น
“รักษาอะไรหรือพระเจ้าข้า”
“เธอจักอาจรักษาเฉพาะจิตของเธอได้ไหม”
“รักษาได้ พระเจ้าข้า”
ดวงตาของอุกกัณฐิตภิกษุเปล่งประกาย ฉายแววแห่งความหวัง
เหมือนกับความสําเร็จนั้นกำลังอยู่แค่เอื้อมเบื้องหน้าเท่านี้เอง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงประทานพระโอวาทว่า “ถ้าอย่างนั้น เธอ
จงรักษาเฉพาะจิตของตนไว้ เธออาจพ้นจากทุกข์ได้” ดังนี้แล้ว จึงตรัส
พระคาถาว่า
“ผู้มีปัญญา พึงรักษาจิตที่เห็นได้แสนยากละเอียดยิ่งนัก มัก
ตกไปในอารมณ์ตามความใคร่ เพราะว่าจิตที่คุ้มครองไว้ดีแล้ว เป็น
เหตุนำสุขมาให้”
ครั้นจบพุทธคาถาแล้ว อุกกัณฐิตภิกษุมีใจหยุดนิ่ง เข้าถึง
กายธรรมพระโสดา บรรลุโสดาปัตติผล ในขณะนั้นนั่นเอง
จากยอดดอย