ข้อความต้นฉบับในหน้า
อย่างไร ก็ไม่มีใครอธิบายได้ ในคัมภีร์ต่าง ๆ ไม่ได้เขียนแจกแจงราย
ละเอียดใด ๆ เอาไว้จนกระทั่งมีการค้นพบของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
คำๆ นี้จึงได้รื้อฟื้นกลับคืนมาใหม่
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านได้ปล่อยชีวิต สละชีวิต โดยท่าน
อธิษฐานจิตของท่านว่า “การนั่งทำภาวนาในครั้งนี้ ถ้าหากว่าไม่ได้บรรลุ
ธรรมตามที่พระพุทธเจ้าท่านได้บรรลุแล้วจะไม่ลุกจากที่ จะยอมตายถวาย
ชีวิตเป็นพุทธบูชา จะดำเนินรอยตามอย่างพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ว่า
เนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน
ท่านได้ตั้งสัตยาธิษฐานของท่านอย่างนี้ ปฏิญาณอย่างนี้ในอุโบสถ
วัดโบสถ์ บน บางคูเวียง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ท่านได้ปล่อยชีวิตตั้งแต่
ยามค่ำเรื่อยไปเลย ท่านปลดปล่อยวางภารกิจทั้งมวล ท่านไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น
ไม่นึกถึงเรื่องในอดีต ไม่กังวลถึงเรื่องที่จะมีมาต่อไปในอนาคต ทำใจหยุด
ใจนิ่งอย่างเดียว ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย เพราะว่าท่านก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร
เนื่องจากไม่มีใครสอนว่าธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านบรรลุเป็นอย่างไร
มีแต่กล่าวเอาไว้ในคัมภีร์อย่างกว้างๆ แต่ที่จะสรุปให้พอเห็นเป็นแนวทาง
แห่งการปฏิบัตินั้นยังไม่ชัดเจน
เพราะฉะนั้น ท่านจึงนั่งปล่อยชีวิตของท่าน โดยไม่ห่วงใย
อาลัยอาวรณ์อะไรทั้งสิ้นในโลก ทำประหนึ่งว่าท่านอยู่คนเดียวในโลก ไม่มี
ภาระ ไม่มีเครื่องผูกพัน ไม่ห่วงใยอะไรทั้งหมด แม้กระทั่งชีวิตของท่าน ใจ
มุ่งที่จะเรียนรู้ ที่จะเข้าถึงธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ท่านทรงบรรลุว่า
ธรรมนั้นมีลักษณะอย่างไร เป็นอย่างไร ใจปักแน่วแน่อย่างนั้น ไม่ง่อนแง่น
ไม่คลอนแคลน วางใจนิ่งเฉยๆ ให้ใจหยุดนิ่งเฉยๆ เรื่อยไปเลย
ท่านก็หยุดนิ่งอย่างนั้นเรื่อยไป เนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือ
แต่กระดูกหนังช่างมัน ท่านก็นิ่ง นั่งมืด ๆ ท่านก็นิ่ง ไม่เห็นอะไรเลย ท่านก็
ไม่สนใจ ท่านก็นิ่ง จะปวดจะเมื่อย เพราะสังขารร่างกายของท่าน แต่ท่าน
ก็นิ่งเฉย หยุดนิ่งอย่างเดียว เมื่อยได้เมื่อยไป หยุดนิ่งอย่างเดียว มืดได้มืดไป
๒๗๓
จากยอดดอย