ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๓๐
จักรยานหาย
ย้อนอดีตไปเกือบ ๔๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๑ เดือนเมษายน มี
ตำรวจยศหมู่นายหนึ่งมาหาคุณยายทองสุก วันที่มาหาคุณยายนั้น ท่าน
แต่งตัวสบายๆ ไม่ได้ใส่ชุดตำรวจมา แล้วมาปรับทุกข์กับคุณยายว่า “คุณ
ยายครับ ตอนนี้ผมมีเรื่องกลุ้มใจอยู่เรื่องหนึ่ง คือจักรยานที่ผมใช้อยู่ทุกวัน
นี่มีคนขโมยไป เลยไม่มีรถขี่ไปทำงาน อยากจะรบกวนคุณยายช่วยนั่งเข้าที่
ดูสิว่า คนที่ขโมยรถไปหน้าตายังไง ทำไมกล้ามาล้วงคองูเห่า” คุณยายทองสุก
ฟังตำรวจท่านนี้อย่างตั้งใจ แล้วคิดในใจว่า “เอ ถ้าเราบอกไปตรงๆ เจ้า
คนร้ายก็ต้องติดคุก แล้วเราจะบาปไหมหนอ” คิดแล้วยังไม่ตกลงใจ จึงพูด
กับตำรวจท่านนั้นว่า “ตอนนี้ยังไม่ว่าง แล้วจะดูให้ตอนดึกๆ พรุ่งนี้ค่อยมา
ฟังผลก็แล้วกัน” แล้วเขาก็ลากลับไป
ตรวจขโมย
คืนนั้น คุณยายทองสุกนั่งสมาธิตามปกติ เมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำ “สั่ง
งาน” และทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว มีเวลาเหลืออีก จึงนั่งสมาธิต่อไปเพื่อ
ช่วยตรวจดูว่าใครขโมยรถจักรยานไป (สมัยก่อนไม่ได้เรียกคุณยาย แต่
เรียกคุณแม่บ้าง แม่อาจารย์บ้าง)
คุณยายทองสุกนั่งสมาธิตรวจไปนาน ตกราวๆ ๑ ชั่วโมง จึงได้เห็น
เห็นครั้งแรกก็เห็นหน้าขโมยหน้าตาเหมือนกับชายเจ้าของรถ คุณยายก็ไม่
เอา เริ่มต้นใหม่ เพราะคิดว่าจิตไม่นิ่งพอ เพราะการฝึกให้ดูอย่างนี้ได้ต้อง
ฝึกแล้วฝึกอีก ต้องใกล้ชิดครูบาอาจารย์เป็นอย่างมากเท่านั้น จึงจะทำได้
ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน
คุณยายลองทำใหม่ ทำใหม่ก็เห็นเหมือนเดิม เป็นอย่างนี้ ๓ ครั้ง
จึงมั่นใจ แล้วบ่นออกมาว่า “ชะๆ ตัวมันเป็นขโมยเอง แล้วยังทำสะเออะ
หน้ามาลองดูอีก ดีล่ะ พรุ่งนี้มาเถอะ ฉันจะตอกหน้าให้หงายกลับไปเลย”
วันรุ่งขึ้นก็มีคนมาจริง ๆ ชายคนนั้นพอไหว้คุณยายทองสุกแล้วจึง
จากยอดดอย