บทที่ 1 ปฐมบทว่าด้วยศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า GL 204 ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 16
หน้าที่ 16 / 209

สรุปเนื้อหา

บทนี้กล่าวถึงความแตกต่างของมนุษย์ซึ่งเกิดจากการกระทำในอดีตที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติและความคิด โดยเฉพาะความเห็นผิดที่นำไปสู่การกระทำที่ไม่ดีต่อสังคม ทั้งยังยกตัวอย่างถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมิจฉาทิฏฐิ และความสำคัญของสัมมาทิฏฐิในการทำให้สังคมมีความสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง แม้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะดับขันธปรินิพพานไปแล้ว แต่พระธรรมของพระองค์ยังคงมีความสำคัญในการนำพามนุษย์ให้หลุดพ้นจากความมืดมิดในจิตใจและสร้างสังคมที่ดีขึ้น

หัวข้อประเด็น

-ความแตกต่างในมนุษย์
-ผลกระทบของมิจฉาทิฏฐิ
-ความสำคัญของสัมมาทิฏฐิ
-การดำรงอยู่ของพระธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

บทที่ 1 ปฐมบทว่าด้วยศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความนํา มนุษยชาติเกิดมาล้วนมีความแตกต่างกัน ทั้งทางด้านหน้าตา สติปัญญา ความรู้ความสามารถ และสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ จากการศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้เราทราบว่า ความ แตกต่างทั้งปวงนั้นเป็นผลอันเนื่องมาจากการกระทำของแต่ละบุคคลที่ทำไว้ในอดีตมาส่งผลในปัจจุบัน ดังที่ กล่าวมาแล้วในวิชากฎแห่งกรรม ความแตกต่างเหล่านี้นำมาซึ่งความขัดแย้งหลายประการ มีความขัดแย้ง เรื่องผิวพรรณ การแบ่งแยกสีผิว การแบ่งชนชั้นวรรณะ แบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ล้วนมีมา เนิ่นนานทุกยุคทุกสมัย นอกจากปัญหาความขัดแย้งดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปัญหาความขัดแย้งที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ปัญหาความขัดแย้งทางด้านความคิด เพราะต่างเชื้อชาติ ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างสิ่งแวดล้อม ต่างความเชื่อ สิ่งเหล่านี้ย่อมทำให้เกิดการสั่งสมประสบการณ์ หล่อหลอมความคิด คำพูด การกระทำจนเป็นนิสัยที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะความเชื่อมีผลต่อความคิดของคนที่ทำให้เกิดความแตกต่าง และยากต่อการลบล้าง ที่สำคัญ คือ ความเชื่อของมนุษย์หลายประการนำไปสู่ความคิดที่ผิด ที่เรียกตามศัพท์ทางพระพุทธ ศาสนาว่า มิจฉาทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดในเรื่องโลกและความเป็นจริงของชีวิต เช่น เรื่องการให้ทานไม่มีผล การสงเคราะห์ไม่มีผล พ่อแม่ไม่มีคุณ โลกนี้ โลกหน้าไม่มี บุญ บาป นรก สวรรค์ไม่มี เป็นต้น ความเห็นผิด เหล่านี้ก่อให้เกิดการกระทำที่ผิดต่อศีลธรรมอันดีงามของความเป็นมนุษย์ ส่งผลกระทบทางด้านลบต่อการ ดำเนินชีวิตของคนในสังคมโลกเป็นวงกว้าง ผลร้ายจากความเห็นผิด มีโทษร้ายแรงทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ตลอดจนสังคมโลก พวกที่เห็นผิดจะ พยายามผูกมิตรชักชวนผู้คนให้เข้ามาเป็นสมัครพรรคพวกหรือเครือข่ายของตนอยู่เสมอ เช่น ในวงการพนัน หรือวงเหล้า คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อได้สนทนากันเพียงเล็กน้อย ก็ร่วมวงเล่นการพนันกันได้ ร่วมดื่ม สุราสรวลเสเฮฮากันได้ เพียงได้ร่วมวงกันครั้งเดียว พวกมิจฉาทิฏฐิชนก็สามารถผูกมิตร สร้างเครือข่าย มิจฉาทิฏฐิให้กว้างไกลออกไปได้อย่างรวดเร็ว เหมือนไฟลามทุ่ง ดังนั้น มิจฉาทิฏฐิบุคคลแม้เพียงคนเดียว ย่อมสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้ขึ้นในสังคมได้ เพราะ เหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า มิจฉาทิฏฐิบุคคลเดียวหากเกิดขึ้นในโลก ก็สามารถทำความพินาศให้ เกิดขึ้นแก่โลกได้ ในทางกลับกัน ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ คือ ผู้ที่มีความเข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องโลก และความเป็นไป ของชีวิตตามความเป็นจริง แม้เพียงคนเดียวย่อมยังโลกนี้ให้สว่างไสวรุ่งเรืองขึ้นมาได้ ดังเช่น พระสัมมา สัมพุทธเจ้าของเรา ที่ทรงบังเกิดขึ้นมาเพื่อยังโลกนี้ให้สว่างไสวด้วยแสงแห่งธรรม ส่องใจสรรพสัตว์ที่มืดบอด ด้วยอวิชชา ความไม่รู้) มากด้วยความเห็นผิด ให้มีปัญญาที่สว่างไสว แก้ไขความเห็นผิดให้หมดไปจากใจของ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ยังผลให้เกิดความสงบสุขร่มเย็นแก่มวลมนุษยชาติ แม้พระองค์จะดับขันธปรินิพพาน นานมาแล้ว แต่พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ยังดำรงอยู่ หากผู้ใดได้ศึกษาและปฏิบัติตาม ย่อมนำความ บทที่ 1 ปฐมบทว่าด้วยศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า DOU 5
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More