การเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า GL 204 ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 37
หน้าที่ 37 / 209

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาอธิบายถึงการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ โดยการปฏิบัติจรณะถึง 15 ประการและสามารถกำจัดอวิชชาจนบรรลุธรรม พระองค์ทรงรักษาคุณธรรมและปฏิบัติที่ดีในทุกชาติที่เกิด ทำให้สามารถไปสู่พระนิพพานและเป็นประโยชน์ต่อสรรพสัตว์ พระองค์ทรงรู้แจ้งโลกทั้ง 3 คือ สังขารโลก สัตวโลก และโอกาสโลก รวมถึงการเสด็จไปทำประโยชน์อย่างต่อเนื่องให้แก่ประชาชน ทำให้เกิดความสุขและความเจริญแก่ทั้งมนุษย์และเทวดา นอกจากนี้ยังพูดถึงอาหาร 4 ประเภทที่เกี่ยวกับจิตใจและการกระทำ

หัวข้อประเด็น

-วิชชาจรณสัมปันโน
-สุคโต
-อวิชชา
-พระนิพพาน
-คุณธรรมและการกระทำที่ดี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เพราะฉะนั้น คำว่า วิชชาจรณสัมปันโน จึงหมายความว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เพราะ พระองค์ทรงประพฤติปฏิบัติจรณะทั้ง 15 ประการมาหลายภพหลายชาติ จึงทำให้พระองค์มีวิชชาที่รู้ในสิ่งที่ สามารถกำจัดความมืด คือ อวิชชา และบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ด้วยพระองค์เอง ประการที่ 4 สุคโต แปลว่า ผู้เสด็จไปดีแล้ว เสด็จไปสู่ที่ดี เสด็จไปโดยชอบ ผู้ทรงละกิเลสด้วย อรหัตตมัคคญาณแล้วไม่ทรงกลับมาสู่กิเลสนั้นอีก เสด็จไปจากสงสารแล้วไม่กลับมาอีก หรือผู้เสด็จไปเพื่อ ยังประโยชน์ของตนและผู้อื่นให้สำเร็จด้วยดี" หมายความว่า พระพุทธองค์ทรงประพฤติดีทั้งทางกาย วาจา ใจ อย่างสม่ำเสมอมาหลายภพหลายชาติ โดยดำเนินไปตามเส้นทางของศีล สมาธิและปัญญา จนสามารถ กำจัดกิเลสที่อยู่ในใจได้อย่างหมดสิ้น แล้วบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณได้ และเมื่อดับขันธปรินิพพานก็ไปสู่ พระนิพพาน ซึ่งพระพุทธองค์ไม่ทรงกลับมาสู่กิเลสที่พระองค์ละได้แล้วอีก นอกจากนี้ คำว่า สุคโต ยังแปลว่า ไปสู่ที่ไหนดีที่นั่น หมายความว่า ไปทำประโยชน์เกื้อกูลให้ ความสุขแก่ที่นั่น ดังเช่นเมื่อคราวที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จไปยังกรุงเวสาลี เพื่อขจัดทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้หมดไป ทำให้เมืองเวสาลีสะอาดหมดจดและชาวเมืองเวสาลีก็กลับมามีความสุขกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะเหตุที่พระพุทธองค์ทรงประพฤติดีทั้งทางกาย วาจา และใจมาอย่างต่อเนื่องทุกๆ ชาติที่เกิด มาสร้างบารมี จึงทำให้พระพุทธองค์สามารถกำจัดกิเลสได้หมดสิ้นและไปสู่พระนิพพาน โดยที่ไม่ต้องกลับมา เกิดอีกต่อไป นอกจากนี้ยังทำให้พระพุทธองค์ไม่ว่าจะเสด็จไปที่ใด สรรพสัตว์ทั้งหลายก็จะเกิดความชุ่มเย็น ด้วยบุญญาบารมีของพระองค์ที่สั่งสมมา และทำให้สถานที่นั้นสะอาดหมดจด มีแต่ความสุขความเจริญ มนุษย์และเทวดาทั้งหลายก็เข้าถึงธรรม มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด ประการที่ 5 โลกวิทู แปลว่า ทรงรู้แจ้งโลก หมายความว่า ทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในภพ 3 คือ โลกทั้ง 3 มีสังขารโลก สัตวโลก โอกาสโลก สังขารโลก คือ รูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ หรือที่เรียกว่า ขันธ์ 5 หมายถึง สังขาร ร่างกายของคนและสัตว์ทั้งหลายที่ประกอบด้วยกายกับใจ ซึ่งมีอาหารเป็นปัจจัยปรุงแต่งให้สรรพสัตว์ทั้ง หลายดำรงอยู่ได้ สัตวโลก คือ เห็น จำ คิด รู้ หรือที่เรียกว่า ใจ หมายถึง สรรพสัตว์ทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในภพ 3 ยัง มีจิตซัดส่ายไปในสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเห็น หรือได้สัมผัสทางรูป รส กลิ่น เสียงหรือวัตถุสิ่งของก็ตาม ก็ทำให้เกิด ความรู้สึกนึกคิดไปในสิ่งต่างๆ เหล่านั้น โอกาสโลก คือ สถานที่ที่รองรับซึ่งกันและกัน หรือที่เรียกว่า ภพ 3 หมายถึง สถานที่ที่เป็นที่อยู่ อาศัยของสรรพสัตว์ทั้งหลาย และยังเป็นสถานที่สร้างกรรมดีและกรรมชั่ว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เสวย ผลแห่งกรรมดีและกรรมชั่วของสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ได้กระทำไว้ครั้นเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้สภาพความเป็นไปของสัตวโลกทั้งหมด ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่อย่างไร จะ ตายจะเกิดได้อย่างไร จะคิดดีคิดชั่วอย่างไร และต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างไร หรือแม้แต่ภพภูมิ จักรวาลที่ พระมหาสมปอง มุทิโต, คัมภีร์อภิธานวรรณนา, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ธรรมสภา, 2542, หน้า 913. 2 อาหารแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ กวลิงการาหาร หมายถึง อาหารที่รับประทานเข้าไป, ผัสสาหาร คือ การสัมผัสหรือ การกระทบ หมายถึง ถ้ามีอารมณ์ดีมากระทบ ก็ทำให้รู้สึกเป็นสุข ถ้าอารมณ์ไม่ดีมากระทบ ก็ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ ถ้ากระทบกับ อารมณ์ที่เป็นกลาง ก็จะรู้สึกเฉยๆ ไม่ยินดียินร้าย, มโนสัญเจตนาหาร คือ ความคิดความอ่านหรือเจตนาทางใจเป็นอาหารที่ทำให้ เกิดความคิด การพูดและการกระทำ, วิญญาณาหาร คือ ความรู้แจ้งอารมณ์ 26 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More