ความยากในการพรรณนาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า GL 204 ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 33
หน้าที่ 33 / 209

สรุปเนื้อหา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์ของมนุษย์และเทวดา การเกิดขึ้นของพระองค์ช่วยดับความเร่าร้อนของกิเลสและให้หนทางพ้นจากทุกข์ภัย พระคุณของพระองค์มากมายจนยากที่จะพรรณนา โดยพระอรหันต์สาวกได้เปรียบเทียบพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับน้ำในมหาสมุทร ซึ่งไม่อาจหมดสิ้นได้ แม้ว่าจะใช้ความพยายามในการพรรณนา สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งและความยิ่งใหญ่ของพระคุณที่ยากจะบรรยายให้หมดสิ้น

หัวข้อประเด็น

-คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-การเปรียบเทียบพระคุณ
-การสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-ศาสนาพุทธและพระอรหันต์สาวก
-สำคัญของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชีวิตมนุษย์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ก. ความยากในการพรรณนาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์ที่สุดของมนุษย์และเทวดาทั้งหลายตลอดทั่วทั้งภพ 3 และการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นย่อมยังตลอดทั่วทั้งภพ 3 ให้สว่างไสว ดับความเร่าร้อนของ กิเลสทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีหนทางพ้นจากทุกข์ภัยในวัฏสงสาร เสมือนบุคคลที่หงายของที่คว่ำเปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง ส่องประทีปในที่มืด เพื่อให้คนที่มีตาดีได้มองเห็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ปรากฏให้เห็นเป็นที่ ประจักษ์แก่ชาวโลกได้รับรู้รับทราบในพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีอย่างมากมายเกินกว่าที่บุคคลใด จะพรรณนาได้หมด เหมือนดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า “พระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามี มากมาย แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะพึงกล่าวคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากกล่าวคุณของกันและ กันไปตลอดทั้งกัป กัปจึงสิ้นไปในระหว่างเป็นเวลาช้านาน พระคุณของพระตถาคตหาสิ้นไม่ เนื่องจากคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เหนือจินตนาการและการคาดเดาด้วยปัญญาของมนุษย์ ซึ่งไม่อาจจะพรรณนาออกมาได้หมดสิ้น เหมือนน้ำในมหาสมุทร จะใช้ความพยายามอย่างไร ก็ไม่อาจทำให้ น้ำในมหาสมุทรเหือดแห้งไปได้ นอกจากพระดำรัสที่พระพุทธองค์ตรัสเอาไว้แล้ว ยังมีพระอรหันตสาวก ผู้ที่มีปัญญามากที่สุดใน บรรดาพระอรหันตสาวกทั้งหลาย คือพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระสมณโคดมพุทธเจ้า ได้กล่าวพรรณนาพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้อย่างมากมาย ดังใจความตอนหนึ่งว่า “พระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านได้พรรณนาไว้นั้น เป็นสิ่งที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับ พระคุณที่มีอยู่จริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุปมาเหมือนบุรุษคนหนึ่งพึงเอาบ่วงเข็มตักเอาน้ำจาก แม่น้ำใหญ่ชื่อจันทรภาคา ซึ่งกำลังไหลท่วมสถานที่ถึง 18 โยชน์ คือ ข้างนี้ 9 โยชน์ ข้างโน้นอีก 9 โยชน์ น้ำที่บุรุษมิได้ตักไปมีมากกว่าน้ำที่บุรุษเอาห่วงเข็มตักไปก็หรือบุรุษพึงเอานิ้วมือจับเอาฝุ่นจากแผ่นดินใหญ่ ฝุ่นที่เหลือนั้นแลมีมากกว่าฝุ่นที่บุรุษนั้นเอานิ้วมือจับได้มา ก็หรือบุรุษพึงชี้นิ้วไปยังมหาสมุทร น้ำที่ เหลือนั้นแลมีมากกว่าน้ำตรงที่บุรุษชี้นิ้วไป และบุรุษพึงชี้นิ้วไปยังอากาศ ส่วนอากาศที่เหลือมีมากกว่า อากาศตรงที่บุรุษชี้นิ้วไป พระพุทธคุณทั้งหลายที่พระเถระไม่เห็นนั้นแล พึงทราบว่ามีมากกว่า พระพุทธคุณที่พระเถระได้เห็นแล้ว” จากคำกล่าวของพระสารีบุตรนั้น แสดงให้เห็นว่า พระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมากมายสุด ประมาณ เหมือนน้ำที่อยู่นอกรูเข็ม แต่ถ้อยคำที่ท่านได้กล่าวไว้นั้น เปรียบเสมือนน้ำที่ไหลเข้าไปในรูเข็ม ซึ่ง มีปริมาณเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับน้ำที่มีอยู่ทั้งหมด ถ้าจะกล่าวพระพุทธคุณของพระองค์เพียงอย่างเดียว ตลอดชีวิต ก็ไม่อาจที่จะพรรณนาไปได้หมดแค่เพียงชาตินี้เท่านั้น แต่ถ้าบุคคลใดมีปัญญามาก ก็สามารถที่จะ พรรณนาพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มาก แต่ถ้าบุคคลใดมีปัญญาน้อย ก็จะสามารถพรรณนา พระคุณของพระพุทธองค์ได้น้อย ดังนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงมีคุณประโยชน์อย่างมากมายต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ซึ่ง ยากที่จะพรรณนาให้หมดไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อเทียบกับพระคุณของพระพุทธองค์ที่ยอมสละเลือดเนื้อและ ชีวิตเพื่อสร้างบารมีมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้รู้ความเป็นจริงของชีวิต 1 จังที่สูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมนิกายปัณณาสก์, มก. เล่ม 21 หน้า 367. สัมปสาทนียสูตร, ทีฆนิกาย ปาฏิวรรค, มก. เล่ม 15 หน้า 214. 22 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More